“มนัญญา” ยืนยันไม่มีการขายแบรนด์วัวแดงให้ต่างชาติ

กรุงเทพฯ 24 พ.ย.- “รมช.มนัญญา ยืนยันไม่มีการขายแบรนด์วัวแดงให้ต่างชาติ เผยเป็นเพียงการให้สิทธิใช้แบรนด์ เฉพาะ “นมผงเลี้ยงทารก” เท่านั้น โดยมีเงื่อนไขถ่ายทอดเทคโนโลยีและแบ่งปันผลประโยชน์ เบื้องต้น อ.ส.ค. อยู่ระหว่างหารืออัยการสูงสุด


นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมหารือในประเด็น การอนุญาตให้เอกชนใช้เครื่องหมายการค้า “ไทย-เดนมาร์ค” หรือนมวัวแดง ร่วมกับ นางสาวณัฐภร แก้วประทุม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (สร.อ.ส.ค.) นายสาวิทย์ แก้วหวาน ที่ปรึกษาสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) โดยมีนายสมพร ศรีเมือง ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เข้าร่วมประชุมด้วย

รมช.มนัญญา เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้มีประเด็นข่าวว่า อ.ส.ค.จะขายแบรนด์ไทย-เดนมาร์ค ให้ต่างประเทศเพื่อผลิตและจำหน่ายนมผง ซึ่งผิดวัตถุประสงค์การก่อตั้ง อ.ส.ค. นั้น วันนี้จึงได้เชิญสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (สร.อ.ส.ค.) มาประชุมและหารือร่วมกับนายสมพร ศรีเมือง ผู้อำนวยการ อ.ส.ค. เพื่อทำความเข้าใจที่ตรงกัน เนื่องจากก่อนหน้านี้ต่างฝ่ายต่างมีชุดข้อมูลที่ไม่เหมือนกัน อาจทำให้เกิดการเข้าใจผิด ซึ่งทั้งสองหน่วยงานต่างเป็นองค์กรเดียวกัน ควรมีความเข้าใจที่ตรงกัน


“อ.ส.ค.ได้ชี้แจงในที่ประชุมว่า โครงการดังกล่าวเป็นการอนุญาตให้เอกชนใช้เครื่องหมายการค้าเท่านั้น ไม่ใช่การขายแบรนด์ตามที่มีการพูดถึง เป็นเพียงการให้สิทธิการใช้เครื่องหมายการค้า เฉพาะ “นมผงเลี้ยงทารก” เท่านั้น ซึ่งยืนยันว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ทำเช่นนั้น เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า อ.ส.ค. ก่อตั้งมาเพื่อเกษตรกรคนไทย โครงการนี้จึงเป็นเพียงการอนุญาตเครื่องหมายการค้าเท่านั้น โดยมีเงื่อนไขในเรื่องของการแบ่งปันผลกำไร และการถ่ายทอดเทคโนโลยีนมผงสำหรับเลี้ยงทารก ซึ่งเป็นนมสูตร 2 สำหรับทารกหลังหย่านมอายุ 6 เดือนถึง 1 ปี เท่านั้น เพราะปัจจุบันในประเทศไทยไม่มีโรงงานใดมีศักยภาพที่จะผลิตได้ เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีขั้นสูง อย่างไรก็ตาม อ.ส.ค.ได้ชี้แจงว่า ขั้นตอนของโครงการนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดโดยสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ดังนั้น ระหว่างนี้จึงให้ อ.ส.ค. และ สร.อ.ส.ค. ไปหารือทำความเข้าใจกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับ อ.ส.ค. และประเทศ และไม่กระทบกับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม” รมช.มนัญญา กล่าว

นายสมพร ศรีเมือง ผู้อำนวยการ อ.ส.ค. กล่าวว่า อ.ส.ค.ได้ศึกษาโครงการนี้มาตั้งแต่ปี 2564 และเคยนำชี้แจงต่อที่ประชุมบอร์ด อ.ส.ค. แล้ว รวมถึงชี้แจงต่อที่ประชุมใหญ่ สร.อ.ส.ค. เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2565 ถึงแนวทางการพัฒนาธุรกิจ อ.ส.ค. ซึ่งมีโครงการนี้อยู่ด้วย ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าไม่ใช่การขายแบรนด์ แต่เป็นการอนุญาตให้ใช้สิทธิในเครื่องหมายการค้าเฉพาะผลิตภัณฑ์ “นมผงเลี้ยงทารก” เท่านั้น (หลังหย่านมอายุ 6 เดือนถึง 1 ปี) นมผงสำหรับทารกเป็นกลุ่มอาหารควบคุมเฉพาะ ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยไม่มีโรงงานผลิตนมผงสำหรับทารก และหาก อ.ส.ค.จะลงทุนตั้งโรงงาน ต้องใช้งบประมาณมูลค่ากว่า 2,400 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบที่สูงมาก เนื่องจากต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ และต้องมีห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ หรือห้องแล็บ นอกจากนั้น โอกาสการแข่งขันทางการตลาดกับเอกชนผู้ผลิตนมผงเลี้ยงทารกรายใหญ่เป็นไปได้ยาก เพราะตลาดนมผงทารกในขณะนี้เป็นแบรนด์จากต่างประเทศทั้งหมด

“ก่อนหน้านี้ได้มีการหารือร่วมกับกงสุลไทยประจำออสเตรเลีย ที่จะนำนมผงมาจำหน่ายในไทยภายใต้แบรนด์วัวแดง จึงมีการหารือมาเป็นลำดับ โดยมีเงื่อนไขแบ่งปันผลประโยชน์ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท/ปี และอาจเพิ่มขึ้นตามยอดรายได้สุทธิ นอกจากนั้นยังมีเงื่อนไขว่า จะต้องถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตนมผงทารก ตั้งแต่การเลี้ยงโคนมในระบบปิดให้ได้น้ำนมดิบคุณภาพดี เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง (High Technology) การพัฒนาคน รวมถึงผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิจะต้องเป็นผู้ทำการตลาดเอง และหากไม่สามารถปฏิบัติตามข้อตกลงได้ อ.ส.ค.ก็มีสิทธิยกเลิกสัญญา โดยที่ อ.ส.ค.ไม่ต้องมีการลงทุนใด ๆ และยืนยันว่าไม่กระทบกับธุรกิจหลักของ อ.ส.ค. เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคต่างกัน (ทารกหลังหย่านมอายุ 6 เดือนถึง 1 ปี) และไม่กระทบกับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม เนื่องจากคุณภาพน้ำนมที่เกษตรกรไทยผลิตได้ยังไม่สามารถใช้ผลิตนมผงสำหรับทารกได้ ซึ่งต้องมีการพัฒนาการเลี้ยงโคนมในประเทศต่อไป” ผู้อำนวยการ อ.ส.ค. กล่าว


ปัจจุบันน้ำนมดิบในประเทศมีปริมาณ 2,500 ตัน/วัน จากเดิมที่ผลิตได้ 3,300 ตัน/วัน ปริมาณน้ำนมลดลง เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบหลักที่นำเข้าในการผลิตอาหารสัตว์ราคาสูงขึ้น เป็นผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้เกษตรกรเลิกเลี้ยงวัวนม ซึ่งปัจจุบันราคาน้ำนมดิบ 20.50 บาท/กิโลกรัม และจากปริมาณผลผลิตที่ลดลง จึงมีการแย่งซื้อ เอกชนกว้านซื้อน้ำนมดิบหน้าศูนย์ราคาน้ำนมดิบ ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 24 บาท/กิโลกรัม ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจโคนม รวมทั้ง อ.ส.ค. ต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น

ด้านนางสาวณัฐภร แก้วประทุม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (สร.อ.ส.ค.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่ได้รับการสื่อสารโดยตรงจากผู้อำนวยการ อ.ส.ค. ตลอดจนเอกสารโครงการงานวิจัยต่างๆ จึงต้องไปยื่นเรื่องร้องต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งหลังจากนี้จะมีการหารือร่วมกับผู้อำนวยการ อ.ส.ค.ให้มากขึ้น และเห็นว่า อ.ส.ค. ควรพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ อ.ส.ค. มีอยู่แล้วให้ดี และต้องสร้างความมั่นใจกับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ตลอดจนสมาชิก อ.ส.ค. ว่า สมาชิกจะไม่ได้รับผลกระทบ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

อพยพด่วน! พนังกั้นน้ำแตกทะลักท่วมเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์

เพชรบูรณ์ 20 ก.ย. – พนังกั้นน้ำหน้าสวนดงตาลแตก ทำให้น้ำทะลักท่วมเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียงและอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย มีรายงานว่า พนังกั้นน้ำหน้าสวนดงตาลแตก ฝั่งถนนพิทักษ์ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ทำให้น้ำทะลักท่วมเทศบาลเมืองหล่มสัก รอบที่ 2 กู้ชีพกู้ภัย รถพยาบาล ระดมกำลังเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียง และอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ขณะที่เจ้าหน้าที่ประกาศห้ามรถทุกชนิดผ่าน และให้ยกของขึ้นที่สูงโดยด่วน ส่วนอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการชลประทาน พร้อมทหาร เร่งวางแบริเออร์ กระสอบทรายบริเวณสวนสาธารณะดงตาล เพื่อชะลอมวลน้ำไม่ให้เข้าในพื้นที่.-สำนักข่าวไทย

“20 ชม.” แพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าตัดต่อมือเด็กสำเร็จ

เชียงใหม่ 20 ก.ย.- ทีมแพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าตัด 20 ชั่วโมง ต่อมือเด็กหญิงวัย 14 ปี ประสบความสำเร็จ หลังถูกฟันขาด เบื้องต้นยังต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด เหตุการณ์ ขณะนายจายอ้ายหม่อง หรือ นายหม่อง อันธพาลเมียนมาและพวก ถือมีดสปาต้า วิ่งเข้าไล่ฟันกลุ่มผู้เสียหาย จนได้รับบาดเจ็บ 3 คน หนึ่งในนั้น คือ ด.ญ.อายุ 14 ปี ซึ่งยกแขนขึ้นบัง ทำให้ถูกนายหม่องฟันจนข้อมือขาด เหตุเกิดเมื่อกลางดึกของวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา บริเวณร้านซักรีดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ต่อมาตำรวจตามจับคนก่อเหตุได้ทั้งหมด 15 ราย ล่าสุด รศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ออกแถลงการณ์ ระบุได้รับผู้ป่วยเด็กหญิงอายุ 14 ปี ซึ่งถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีดจนมือขวาขาดระดับข้อมือ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 […]

“นายกฯ อนุทิน” ลงพื้นที่อ่างทอง ประกาศไม่ต้องลุ้น 4 เดือนยุบสภาแน่

อ่างทอง 20 ก.ย. – “นายกฯ อนุทิน” ลงพื้นที่อ่างทอง จังหวัดแรก ประกาศไม่ต้องลุ้น 4 เดือนยุบสภาแน่ ทำงานเต็มที่ หวังประชาชนเลือกกลับเข้ามาอีก พร้อมอวยพรวันเกิด “ภราดร” ครบ 46 ปี เจ้าตัวถึงกับคุกเข่ามอบมาลัยขอบคุณ “อนุทิน“ อ้อนชาวอ่างทอง อสม.แฟนเก่า ขอยืมตัว “ลูกแบด” ไปเป็น รมต. คุมสำนักงบฯ ตามติดตัว 24 ชั่วโมง บอกเก่งทุกเรื่อง ยกเว้นหาเมีย ขณะครอบครัว “ปริศนานันทกุล” ปลื้ม คนดังการเมืองตบเท้าแน่น “อนุทิน” ประกาศเชียร์คืนความเป็นธรรม อดีตผู้ว่าฯ อ่างทอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ใช้โอกาสก่อนลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม เดินทางมาที่ อบจ.อ่างทอง เพื่อพบปะกับประชาชน และร่วมอวยพรวันเกิดให้กับนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อายุครบ 46 ปี ซึ่งมีครอบครัว ทั้งนายสมศักดิ์ […]

พิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.7 ประดิษฐานหน้าอาคารรัฐสภา

รัฐสภา 20 ก.ย.- รัฐสภา จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) ประดิษฐานหน้าอาคาร ขนาดใหญ่กว่าพระองค์จริง 4 เท่า เมื่อเวลา 08.00 น. รัฐสภา จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) เพื่อประดิษฐานบนแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ ณ บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา (ถนนสามเสน) โดยมีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่1 เป็นประธานในพิธี นอกจากนี้ยังมี พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. นายชวนหลีก หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปปัตย์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่านพรรคเพื่อไทย น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ สส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า และประธานกรรมการ บมจ.อสมท รวมถึงข้าราชการรัฐสภา ร่วมพิธีด้วย โดยนายไชยาและพล.อ.สวัสดิ์ ถวายพวงมาลัยและโปรยดอกไม้ที่พระบาทของพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ จากนั้นปักธูปที่เครื่องบวงสรางพร้อมโปรยดอกไม้ จากนั้นนายฉัตรชัย ปิ่นเงิน หัวหน้าโหรพราหมณ์ สำนักพระราชวัง อ่านโองการจากนั้นเชิญประธานในพิธีโปรยดอกไม้ที่โต๊ะเครื่องบวงสรวง วางพานประดับพุ่มดอกไม้ และจุด ธูป เทียน […]