ไทเป 14 พ.ค. – นายกรัฐมนตรีซู เจิง-ชาง ของไต้หวัน กล่าววันนี้ว่า ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องยกระดับการเตือนภัยการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในไต้หวัน
นายกรัฐมนตรีซู โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊คของเขาว่า ในช่วงสองสัปดาห์นี้เป็นช่วงเวลาสำคัญในการควบคุมการติดต่อของเชื้อไวรัส เขากล่าวว่า หากเปรียบเทียบกับช่วงเวลานี้ของปีที่แล้ว ไต้หวันมีประสบการณ์มากกว่าและมีทรัพยากรพร้อมเพรียงในการต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 ด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น ศูนย์บัญชาการรับมือกับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ประสบความสำเร็จในการติดตามห่วงโซ่ของการติดเชื้อไวรัสระหว่างผู้ติดเชื้อที่ยืนยันแล้วและขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องยกระดับการเตือนภัยโควิด-19 ในไต้หวัน ไต้หวันพบผู้ติดเชื้อสะสมเพียง 1,233 ราย จากจำนวนประชากรประมาณ 24 ล้านคน ซึ่งผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ แต่การพบการระบาดแบบกลุ่มก้อน ซึ่งเป็นการติดเชื้อภายในประเทศจำนวนไม่มาก ทำให้ชาวไต้หวันเกิดความหวั่นวิตกและกระทบกับตลาดหุ้นของไต้หวันด้วย เมื่อวานนี้ นายเฉิน สือ-จง รัฐมนตรีสาธารณสุขไต้หวัน กล่าวว่า จะมีการยกระดับการเตือนภัยในเร็ววันนี้ ซึ่งจะส่งผลให้มีการปิดธุรกิจที่ไม่สำคัญ ทำให้ตลาดหุ้นใต้หวันร่วงอย่างหนัก และเจ้าหน้าที่เริ่มออกมาระบุว่า อาจไม่มีการยกระดับการเตือนภัย ไต้หวันยังไม่เคยต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเต็มรูปแบบในการรับมือกับโควิด-19 นายกรัฐมนตรีซู กล่าวว่า รัฐบาลจะใช้จ่ายเงินมากขึ้นในการช่วยเหลือประชาชนและอุตสหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และจะขยายการเตรียมการรับมือกับการระบาดให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เขาย้ำว่า ทุกคนมีความสำคัญในการสู้ภัยโควิด.-สำนักข่าวไทย