รัฐสภา 12 ก.ย.- “อนุทิน” ย้ำ ระดมสรรพกำลังทุกภาคส่วนช่วยน้ำท่วมภาคเหนือ ยันมีงบฟื้นฟูเพียงพอ พร้อมลงพื้นที่ จี้ เช็กระบบเเจ้งเตือน หลังถูกโวยไร้ประสิทธิภาพ ก่อนเคลียร์คิวทำบุญวันเกิดลงพื้นที่เชียงราย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการทำงานหลังการแถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาว่า กระทรวงมหาดไทยไม่มีปัญหาเนื่องจากทำงานต่อเนื่องอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาวบ้านถึงระบบเตือนภัยของกระทรวงมหาดไทย ในการแจ้งเตือนเหตุอุทกภัยพื้นที่จังหวัดเชียงรายไม่ทำงาน นายอนุทิน ยืนยันว่า ระบบมีใช้ และเราก็ระดมสรรพกำลังไปในพื้นที่ โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัด นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ก็อยู่ในพื้นที่ในการอำนวยความสะดวกและระดมเครื่องมือเครื่องจักร ลงในพื้นที่ประชุมอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง
ส่วนการเตือนภัยของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ.ไม่มีการแจ้งเตือนก่อนเกิดเหตุ นายอนุทิน ขอว่า อย่าเพิ่งโทษว่าใครผิดหรือถูก ตอนนี้ต้องให้ความสำคัญกับความให้การปลอดภัยให้กับประชาชนว่ายังมีใครอยู่ในพื้นที่หรือไม่ รวมถึงอพยพผู้ที่ประสบอุทกภัยออกมายังสถานที่พักพิงได้แล้วหรือยัง ซึ่งทุกภาคส่วนกำลังระดมสรรพกำลังในการช่วยเหลือ
ขณะที่ช่วงบ่ายวันนี้เวลา 14.00 น นางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมแก้ไขปัญหา อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ ขณะที่กำหนดการลงพื้นที่ของพวกตนมีอยู่แล้ว เพื่อไปเยียวยาฟื้นฟู แต่คิดว่าจะยังไม่ลงไปในขณะนี้เนื่องจากไม่เกิดประโยชน์ จะบัญชาการอยู่ส่วนกลาง ส่วนการประชุมวงนายกรัฐมนตรีในวันนี้จะมีการหารือถึงแผนฟื้นฟูน้ำท่วมด้วยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า จะต้องมีการระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วนอยู่แล้ว และขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายก็มีงบทดรองจ่าย และหากงบประมาณไม่พอก็สามารถขอเสนอ เข้ามาที่ส่วนกลางได้ทันที ซึ่งปภ.จะเป็นผู้ดำเนินการ และยืนยันว่าเรื่องงบประมาณไม่ใช่ปัญหา แต่ขณะนี้ต้องช่วยประชาชนไม่ให้ติดค้างอยู่ภายในพื้นที่อุทกภัยก่อน
ส่วนกรณีที่จังหวัดเชียงรายได้งบประมาณ ในการป้องกันและแจ้งเตือนอุทกภัยมากที่สุดในพื้นที่ภาคเหนือแต่ที่ผ่านมาถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องระบบดังกล่าว ไม่ได้ศักยภาพ นายอนุทิน กล่าวว่าต้องไปเร่งจี้ที่ระบบแจ้งเตือนว่าเป็นอย่างไร เพราะทุกคนก็บอกว่าแจ้งเตือนแล้วแต่ก็ยังมีคนบอกว่าไม่ได้รับการแจ้งเตือน ซึ่งโดยธรรมชาติของมนุษย์ไม่มีใครอยากออกจากเคหะสถานหรือบ้าน และอาจจะประเมินว่าสถานการณ์อาจไม่หนัก และตนจะเร่งลงไปในพื้นที่เร่งไล่จี้เรื่องนี้ พร้อมระบุว่าที่ผ่านมามีทุกโหมดในการดูแล และขณะนี้ได้มีการประกาศให้จังหวัดเชียงรายเป็นพื้นที่ภัยพิบัติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนการประเมินสถานการณ์ว่าน้ำจะลดในกี่วันนั้นนายอนุทิน ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดในเฉพาะพื้นที่จังหวัดเชียงรายหรือเกิดจากปัญหาปริมาณน้ำฝนเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากน้ำป่าไหลหลาก และน้ำเอ่อล้นจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามา ซึ่ง เป็นภัยธรรมชาติไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการ พร้อมยืนยันว่าจะต้องเร่งควบคุมให้เกิดการสูญเสียน้อยที่สุด
เมื่อถามว่ามองอย่างไรถึงกระแสสังคม ที่วิพากษ์วิจารณ์ผู้นำรัฐบาลไม่ยอมลงพื้นที่ นายอนุทิน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเรียกประชุมและรัฐมนตรีทุกคน ก็มีการพูดคุยกันตลอดและวันนี้ก็ได้มีการหารือกันผ่านออนไลน์ เพื่อติดตามสถานการณ์ ซึ่งอย่างที่บอกพอไปก็ถามว่าไปทำไม พอไม่ไปก็บอกว่าไม่ลงพื้นที่ พร้อมยืนยันว่า ตรงนี้อยู่ระหว่างการตัดสินใจ เพื่อประเมิน ซึ่งในช่วงวิกฤตน้ำป่าไหลหลาก ควรให้บุคลากรอยู่ในพื้นที่เพราะถือเป็นเรื่องที่สำคัญ
ในช่วงท้าย นายอนุทิน กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (13 ก.ย.) ตนอาจเดินทางไปยังพื้นที่จังหวัดเชียงราย และได้มีการยกเลิกภารกิจการทำบุญเนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 58 ปี เพียงแต่อาจมีการเดินทางไปไหว้พระที่วัดราชบพิธ และศาลหลักเมืองเป็นการส่วนตัว ก่อนเข้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อสักการะศาล สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาลพร้อมกับนายกรัฐมนตรี.-315 -สำนักข่าวไทย