นายกฯ หารือนายกฯเวียดนาม กระชับความร่วมมือเศรษฐกิจ

ทำเนียบฯ 12 พ.ค.-นายกรัฐมนตรี หารือนายกรัฐมนตรีเวียดนามพร้อมกระชับความร่วมมือเศรษฐกิจในช่วงความท้าทายโควิด-19 มุ่งกระชับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็งระหว่างกันอย่างรอบด้าน


วันนี้ (12 พฤษภาคม 2564) เวลา 15.30 น. ณ ห้องโดม ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ (H.E. Mr. Pham Minh Chinh) นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เพื่อแสดงความยินดีในโอกาสที่นายกรัฐมนตรีเวียดนามเข้ารับตำแหน่งใหม่ ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญการหารือ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีกับนายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ ในโอกาสที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ชื่นชมความสัมพันธ์ฉันท์มิตรที่ใกล้ชิดระหว่างไทย-เวียดนาม พร้อมเชิญให้นายจิ๋งห์มาเยือนประเทศไทยในโอกาสแรก นายกรัฐมนตรีย้ำความพร้อมของไทยที่จะร่วมมือกับรัฐบาลใหม่ของเวียดนามอย่างใกล้ชิด ในฐานะเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็งระหว่างกัน (Strengthened Strategic Partnership) และเชื่อมั่นว่าภายใต้การดำรงตำแหน่งของนายจิ๋งห์ จะสามารถนำพาให้ประเทศเวียดนามก้าวหน้าผ่านพ้นอุปสรรค ในโอกาสนี้ ฝากความความระลึกถึงและความปรารถนาดี ไปยังนายเหวียน ฝู จ่อง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ และนายเหวียน ซวน ฟุก ประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม


นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม รู้สึกเป็นเกียรติที่นายกรัฐมนตรีไทยแสดงความยินดีในวันนี้ พร้อมที่จะดำเนินนโยบายตามยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมเวียดนาม 2021-2025 รวมทั้งเดินหน้าพัฒนานวัตกรรม และพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศกับประเทศที่มีบทบาทสำคัญ เช่นประเทศไทย และประเทศอื่นๆ ในเวทีระหว่างประเทศ รวมทั้งหวังว่าจะได้ร่วมงานกับนายกรัฐมนตรีอย่างใกล้ชิด ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีเวียดนามชื่นชมความมุ่งมั่นพยายามของไทยในการควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 พร้อมร่วมมือเพื่อแลกเปลี่ยนเพื่อเอาชนะความท้าทายครั้งนี้ไปด้วยกัน

ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับกลไกความร่วมมือทวิภาคีไทย-เวียดนาม เชื่อมั่นในความสัมพันธ์ที่ดีของทั้งสองประเทศ หวังจะเห็นการร่วมลงนามในแผนปฏิบัติการ (Plan of Action) เพื่อขับเคลื่อนความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระยะที่ 2 ทั้งนี้ เห็นพ้องที่จะจัดการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการไทย-เวียดนาม (Joint Cabinet Retreat: JCR) ครั้งที่ 4 ในโอกาสแรก โดยจัดตามรูปแบบที่เหมาะสมและเอื้ออำนวยกับสถานการณ์

ด้านเศรษฐกิจ ไทยชื่มชมพัฒนาการทางเศรษฐกิจของเวียดนาม และแม้จะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เศรษฐกิจของเวียดนามก็ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยไทยมุ่งมั่นจะกระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจกับเวียดนาม และพร้อมร่วมมือเพื่อลดอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีเวียดนามยืนยันความตั้งใจของเวียดนามที่จะอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุนกับไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อุตสาหกรรมท่องเที่ยว เกษตรไฮเทค การผลิตรถยนต์ และทุกด้านที่ไทยมีศักยภาพ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณเวียดนามที่ให้การดูแล และขอให้ช่วยสนับสนุนนักลงทุนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านที่ไทยสนใจ และมีศักยภาพ อาทิ ด้านพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และการลงทุนของบริษัท SCG ในจังหวัดบาเหรี่ยะ-หวุงเต่า ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีไทยและเวียดนามได้ร่วมหารือเพื่อพิจารณาลดข้อกำหนดในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เพื่ออำนวยความสะดวกแก่กัน และมุ่งหน้าดำเนินนโยบายด้านเศรษกิจ ตามที่ได้ตั้งเป้าพัฒนาตัวเลขทางการค้าการลงทุนเอาไว้ โดยทั้งสองฝ่ายเห็นว่าในช่วงเวลาของความท้าทายต้องมีความร่วมมือที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น


ในส่วนของความร่วมมือพหุภาคี ไทยและเวียดนามยืนยันสนับสนุนการส่งเสริมความเชี่อมโยงในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และเวียดนามพร้อมสนับสนุนไทยในกรอบความร่วมมือเอเปค ซึ่งไทยจะดำรงตำแหน่งเจ้าภาพเอเปคในปี 2565 ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมบทบาทของเวียดนามในฐานะประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ที่ผ่านมา ซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการผลักดันให้เกิดการสนับสนุนบทบาทของอาเซียนต่อสถานการณ์ในเมียนมา โดยไทยและเวียดนามยึดมั่นใน Five-Point Consensus เพื่อให้เปิดการแก้ปัญหาอย่างสันติวิธี

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้อวยพรกันและกันให้ประสบแต่ความสุขและมีสุขภาพแข็งแรง โดยจะมอบหมายให้กระทรวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อพัฒนาความร่วมมือตามแนวทางที่ได้หารือกันในรายละเอียดต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก