ทูตสหรัฐหารือนายกฯ ย้ำความร่วมมือไทย-สหรัฐ ใกล้ชิด

ทำเนียบฯ 15 ต.ค. – ทูตสหรัฐเข้าหารือ “นายกฯ แพทองธาร” ย้ำความร่วมมือไทย-สหรัฐ ที่ใกล้ชิด ทั้งด้านเศรษฐกิจ การศึกษา และการจัดการอุทกภัย ร่วมผลักดันบทบาทอย่างสร้างสรรค์ของกันและกันในการส่งเสริมสันติภาพในภูมิภาค


นายรอเบิร์ต เอฟ. โกเด็ก (Mr.Robert F. Godec) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้

นายกรัฐมนตรีชื่นชมความร่วมมือระหว่างไทย-สหรัฐ มีความก้าวหน้าครอบคลุมหลากหลายมิติ ซึ่งตนเองมุ่งมั่นเสริมสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีทั้งสองประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โอกาสนี้นายกรัฐมนตรียังแสดงความเสียใจต่อความสูญเสียจากพายุเฮลีนและมิลตันในสหรัฐ ซึ่งไทยประสบปัญหาอุทกภัยเช่นกัน และเข้าใจถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้น


เอกอัครราชทูตสหรัฐ ยืนยันความมุ่งมั่นเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างไทยและสหรัฐ ในฐานะพันธมิตรและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญของกันและกัน ซึ่งทราบมาว่าในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน นายกรัฐมนตรีได้พบหารือกับนายแอนโทนี เจ. บลิงเกน (Antony J. Blinken) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริกา โดยพูดคุยกันในหลายประเด็น สะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างไทยและสหรัฐ

ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างหารือถึงความร่วมมือไทยและสหรัฐ ในประเด็นต่างๆ ดังนี้ ด้านการบริหารจัดการอุทกภัย นายกรัฐมนตรีขอบคุณสหรัฐ สำหรับการช่วยเหลือในสถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือ ไทยยินดีที่จะร่วมมือกับสหรัฐ ซึ่งมีเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญเพื่อบรรเทาความเสี่ยงจากน้ำท่วม และหวังว่าจะใช้ประโยชน์จากความร่วมมือในกรอบลุ่มแม่น้ำโขง-สหรัฐ เพื่อเพิ่มความร่วมมือด้านการจัดการน้ำให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ซึ่งสหรัฐพร้อมทำงานร่วมกับสภากาชาดไทย การให้ความช่วยเหลือผ่านองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐ (USAID) การใช้เทคโนโลยีดาวเทียมในการตรวจสอบพื้นที่น้ำท่วม เพื่อช่วยจัดการอุทกภัยในประเทศไทย

ด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะส่งเสริมการลงทุนระหว่างกัน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และเทคโนโลยีต่างๆ เช่น ความมั่นคงทางไซเบอร์ และ AI โดยเอกอัครราชทูตสหรัฐกล่าวว่ามีหลายบริษัทชั้นนำของสหรัฐสนใจเข้ามาลงทุนและขยายการลงทุนในไทย โดยจะมีการนำคณะนักธุรกิจจากสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน มาเยือนประเทศไทย เพื่อเป็นกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น


นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความตั้งใจในการพัฒนาการศึกษา และการส่งเสริมให้เยาวชนไทยมีโอกาสได้รับทุน หรือเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยน เพื่อสนับสนุนให้นักเรียนไทยได้ไปศึกษาต่อต่างประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐ เพื่อให้เยาวชนไทยได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและพัฒนาทักษะในสาขาที่ไทยต้องการ ซึ่งเอกอัครราชทูตสหรัฐ พร้อมสนับสนุน โดยปัจจุบันมีโครงการที่ได้เริ่มดำเนินการอยู่แล้วในการเชื่อมโยงมหาวิทยาลัยไทยและสหรัฐ เพื่อสนับสนุนทุนการศึกษา รวมทั้งยังมีโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาทักษะดิจิทัลในประเทศไทยจากบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐ อย่าง Apple และ Microsoft อีกด้วย

ระหว่างการพูดคุย เอกอัครราชทูตสหรัฐยังแสดงความชื่นชมนายกรัฐมนตรีที่มีบทบาทที่แข็งขันในระดับภูมิภาคและระดับโลก โดยเฉพาะการฟื้นฟูสันติภาพและเสถียรภาพมากขึ้นในเมียนมา สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของสหรัฐ และพร้อมทำงานร่วมกับไทยในการส่งเสริมสันติภาพในเมียนมา รวมถึงประเด็นอื่นๆ เช่น ทะเลจีนใต้ และความขัดแย้งในตะวันออกกลาง รวมทั้งยืนยันที่จะสนับสนุนบทบาทที่สร้างสรรค์ของกันและกัน และพร้อมที่จะทำงานร่วมกัน เพื่อส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคและระดับโลก.-314-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ในหลวงทรงรับคนไข้

ในหลวงทรงรับคนไข้เหตุแผ่นดินไหวไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์

ในหลวงทรงรับคนไข้เหตุแผ่นดินไหวเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ขณะนายกรัฐมนตรีเยี่ยมผู้บาดเจ็บ แพทย์แจงอาการดีขึ้นแล้ว

Building after collapses in Myanmar in front of monk's eye

แผ่นดินไหวทำตึกเมียนมาถล่ม-ยอดตายเกินพันแล้ว

มัณฑะเลย์ 29 มี.ค.- แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในเมียนมาเมื่อวานนี้ ทำให้อาคารหลังหนึ่งถล่มต่อหน้าต่อตากลุ่มพระสงฆ์ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในเมียนมาจนถึงขณะนี้เกิน 1,000 คนแล้ว คลิปภาพที่ผู้เห็นเหตุการณ์บันทึกไว้ได้ในเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของเมียนมา และอยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหวบนบกที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ เห็นกลุ่มพระสงฆ์รวมตัวกันอยู่บนถนนใกล้อาคารหลังหนึ่งที่ค่อย ๆ เสียการทรงตัว ก่อนพังถล่มลงไปทั้งหลังต่อหน้าต่อตา ทำให้เกิดกลุ่มควันขนาดใหญ่ฟุ้งกระจาย รอยเตอร์รายงานเมื่อเวลา 13:00 น.วันนี้ตามเวลาไทยว่า รัฐบาลเมียนมาแถลงล่าสุดว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวเพิ่มเป็น 1,002 คนแล้ว ขณะที่สำนักสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐหรือยูเอสจีเอส ซึ่งแจ้งขนาดแผ่นดินไหวไว้ที่ 7.7 และมีศูนย์กลางลึกเพียง 10 กิโลเมตรประเมินจากแบบจำลองการคาดการณ์ว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจจะเกิน 10,000 คน.-814.-สำนักข่าวไทย  

สาเหตุตึกถล่ม

นายกฯ เร่งกรมโยธาดูสาเหตุตึกถล่ม-หาทางแก้

นายกฯ รับรายงายสถานการณ์แผ่นดินไหว เร่งกรมโยธาดูสาเหตุ-หาทางแก้ตึกถล่ม ย้ำ ปชช. มั่นใจได้ เหตุแผ่นดินไหวตอนนี้ไม่กระทบไทยแล้ว เตรียมออกมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบต่อไป

วัดเสียหายแผ่นดินไหว

วัด 4 แห่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ได้รับผลกระทบแผ่นดินไหว

สำนักงานพระพุทธศาสนา และคณะสงฆ์เชียงใหม่ สำรวจโบราณสถาน พบวัด 4 แห่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว มีทั้งรอยร้าว ฐานพระพุทธรูปอายุกว่า 700 ปีทรุด ยอดฉัตรทองคำหักเอียง