กรุงเทพฯ 7 พ.ค. – เตรียมเสนอเพิ่มเงินโครงการเราชนะ 2,000 บาท เข้า ครม. วันอังคารที่ 11 พ.ค. 64 โดยมีคำแนะนำให้ร้านค้าเดิมที่ถูกระงับสิทธิ 2,744 ราย รีบส่งแบบฟอร์มเพื่อชี้แจงโต้แย้งการระงับสิทธิ ภายในวันที่ 14 พ.ค. ก่อนถูกตัดสิทธิเข้าร่วมโครงการรัฐ ส่วนมาตรการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ไฟฟ้า-น้ำประปา เริ่มเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2564
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท โฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการที่เดินหน้าได้ทันทีคือ โครงการเราชนะ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงการคลัง จะได้นำเสนอรายละเอียดและแนวทางการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยการเพิ่มเงิน 2 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 1,000 บาท รวมเป็นวงเงิน 2,000 บาท ของโครงการเราชนะ ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 ต่อไป
ส่วนมาตรการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ไฟฟ้า-น้ำประปา เริ่มเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2564 รายละเอียดเรื่องค่าไฟ สำหรับบ้านอยู่อาศัย หากใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วย/เดือน จะได้รับสิทธิใช้ไฟฟ้าฟรี 90 หน่วยแรก แต่หากใช้ไฟฟ้าเกิน 150 หน่วย/เดือน จะได้รับส่วนลดค่าไฟฟ้า ดังนี้
1.กรณีใช้ไฟน้อยกว่าหรือเท่ากับเดือน เม.ย. 64 ให้คิดค่าไฟตามการใช้งานจริง
2.กรณีใช้ไฟมากกว่าเดือน เม.ย. 64 แต่ไม่เกิน 500 หน่วย/เดือน จะคิดค่าไฟเท่ากับเดือน เม.ย. 64
3.กรณีใช้ไฟมากกว่าเดือน เม.ย. 64 โดยอยู่ในช่วง 501-1,000 หน่วย/เดือน จะคิดค่าเท่ากับเดือน เม.ย. 64 +ส่วนเกินในอัตรา 50%
4.กรณีใช้ไฟมากกว่าเดือน เม.ย. 64 และมากกว่า 1,000 หน่วย/เดือน จะคิดค่าเท่ากับเดือน เม.ย. 64 +ส่วนเกินในอัตรา 70%
ในส่วนของน้ำประปา ให้ลดค่าน้ำประปาลงร้อยละ 10 เฉพาะบ้านที่อยู่อาศัย และกิจการขนาดเล็ก (ไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ) เป็นระยะเวลา 2 เดือน สำหรับใบแจ้งหนี้ค่าน้ำประปาประจำเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2564 โดยให้หน่วยงานรับผิดชอบ เช่น การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค ดำเนินการตามมาตรการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน (ไฟฟ้าและน้ำประปา) โดยขอรับสนับสนุนแหล่งเงินเพื่อดำเนินตามมาตรการดังกล่าว ภายใต้กรอบวงเงินรวมไม่เกิน 10,000 ล้านบาท
ส่วนโครงการใหม่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงการคลัง คือโครงการ “ยิ่งใช้ ยิ่งได้” กระทรวงการคลังได้เปิดเงื่อนไขการรับเงินคืนสูงสุด 7,000 บาท เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของกลุ่มผู้มีกำลังซื้อ โดยโครงการนี้ถือเป็นโครงการใหม่ ในจำนวน 8 มาตรการที่ออกมาเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบช่วงการระบาดของโควิด-19
โครงการ “ยิ่งใช้ ยิ่งได้” กลุ่มเป้าหมายจำนวน 4 ล้านคน เพื่อเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายของกลุ่มผู้มีกำลังซื้อ โดยรัฐบาลสนับสนุน E-Voucher สูงสุด 7,000 บาทต่อคน
รายละเอียดของโครงการนี้ กระทรวงการคลังออกแบบโครงการเพื่อให้ผู้มีกำลังซื้อใช้จ่ายรวม 60,000 บาท แล้วจะได้รับเงินคืน 7,000 บาท แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.เงินส่วนแรก 40,000 บาท ใช้จ่ายได้ 8 ครั้ง ในวันละ 5,000 บาท ส่วนนี้จะได้รับเงินคืนครั้งละ 10% ของการใช้จ่าย สะสมรวมเป็น 4,000 บาท 2.อีก 20,000 บาทที่เหลือ จะใช้จ่ายได้ 4 ครั้ง ในวันละ 5,000 บาท โดยจะได้รับเงินคืนครั้งละ 15% สะสมรวมเป็น 3,000 บาท
โดยการใช้จ่ายจะได้รับ E-Voucher ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-กันยายน 2564 และใช้จ่าย E-Voucher ได้ในเดือนสิงหาคม-ธันวาคม 2564 โดยประชาชนที่รับสิทธิจะต้องใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ด้วยการเติมเงินเข้าวอลเล็ต และใช้ร่วมกับร้านที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ Vat โดยร้านเหล่านี้รวมถึงในห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ สามารถใช้ได้เช่นกัน ระบบจะคืนให้กับผู้ใช้สิทธิเป็น E-Voucher ไม่ใช่เงินสดแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย
