ทำเนียบ 27 เม.ย.-นายกฯ ให้กำลังใจ “อนุทิน” ขอความร่วมมือแพทย์ต่างๆ เข้าใจรัฐบาลกำลังบริหารราชการ ยืนยันไร้ปัญหา แก้ปัญหาผู้ติดเชื้อตกค้าง 1,400 ราย ใน 3 วัน ขอทุกคนรวมหัวใจช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าว ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนาม ที่ศูนย์กีฬาบางกอกอารีนา เขตหนองจอก ซึ่งต้องชมเชยว่ามีการจัดระบบรองรับผู้ป่วยเป็นอย่างดีและได้มาตรฐาน พร้อมกันนี้ย้ำว่าขณะนี้การคัดกรองผู้ป่วยแบ่งเป็นตามระดับสี คือสีเขียวผู้ป่วยที่ไม่มีอาการให้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสนาม สีเหลืองคือผู้ป่วยที่อาการน้อย เข้ารักษาในโรงพยาบาลทั่วไป ส่วนสีแดงคือผู้ป่วยที่มีอาการหนัก ไปรักษาที่โรงพยาบาลเฉพาะทางอย่างเร่งด่วน พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขจัดเตรียมสถานที่คัดกรองให้มากขึ้นเพื่อลดความแออัดตามโรงพยาบาล
ส่วนเรื่องการขอซื้อวัคซีนจากบริษัทต่างๆ นายกรัฐมนตรียืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้นอนใจและกำลังดำเนินการโดยจะต้องมีการประสานพูดคุยไปยังบริษัทผู้ผลิตวัคซีนและต้องขออนุญาตไปยังรัฐบาลของประเทศผู้ผลิตนั้นๆ ด้วย เพราะเป็นการควบคุมของแต่ละรัฐบาลเช่นกันในการนำเข้าและส่งออก พร้อมกันนี้ขอขอบคุณภาคเอกชน ภาคธุรกิจ รวมถึงหมอที่ต้องการมีส่วนร่วมในเรื่องของวัคซีน โดยให้กระทรวงสาธารณสุขไปทำให้เกิดความชัดเจน ยืนยันไม่ปิดกั้นใครแต่ต้องหาช่องทางที่ดำเนินการร่วมกันได้ในหลักการที่รัฐบาล จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบทุกอย่างในเรื่องผลกระทบข้างเคียง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว กว่า 2 แสนคน และรัฐบาลตั้งเป้าว่าในปีนี้จะจัดหาวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดส เพื่อฉีดให้กับประชาชนคนไทย 50 ล้านคน แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะได้วัคซีนมาเพิ่มเติมอย่างไร ยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ ทำงานเรื่องนี้มาโดยตลอด แต่ปัญหาสำคัญคือวัคซีนเองเป็นสินค้าที่ถูกแย่งในทุกภูมิภาค ซึ่งวันนี้ทุกคนทำงานเต็มขีดความสามารถแล้ว
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงยอดผู้เสียชีวิตประจำวันซึ่งสูงถึง 15 คน ประชาชนมีความกังวลว่าคนที่ติดเชื้อได้รับการรักษาพยาบาลแล้วหรือไม่ ว่า ได้สั่งการให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องผู้ป่วยที่ตกค้างอยู่นอกโรงพยาบาลกว่า 1,400 คน ซึ่งได้รับการรักษาในโรงพยาบาลแล้ว โดยใช้เวลา 3 วัน ซึ่งเป็นจำนวนที่ตกค้างมาจากช่วงเทศกาลสงกรานต์
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ให้กำลังใจนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งถือเป็นด่านหน้าของรัฐบาล พร้อมขอความร่วมมือกับกลุ่มแพทย์ต่างๆ ว่าต้องเข้าใจว่ากำลังบริหารราชการกันอย่างไร ควรส่งเสริมกันมากกว่าที่จะขัดแย้งกัน ตนเคารพทุกคนไม่ว่าจะเป็นแพทย์จากที่ใดก็ตาม ไม่เช่นนั้นจะถูกมองว่าบริหารไม่ได้หรืออย่างไร และขอยืนยันว่าบริหารได้ทุกอย่างและกระทรวงสาธารณสุขไม่มีปัญหาทั้งสิ้น
นายกรัฐมนตรี ยังขอบคุณจิตอาสากลุ่มองค์กรและบุคคลต่างๆ ที่ได้แสดงน้ำใจเสนอตัวเข้ามาช่วยเหลือการบริหารงานของภาครัฐหรือช่วยเหลือบุคคล ตนขอบคุณอย่างยิ่ง รัฐบาลรับทุกเรื่องไว้พิจารณา และขอบคุณข้อมูลอันเป็นประโยชน์ พร้อมกับระบุว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการรวมหัวใจไว้ด้วยกัน ดูแลและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทำในสิ่งที่ทุกคนทำได้ ทำอย่างไรไม่ให้เกิดความเสี่ยงทั้งต่อตนเองและผู้อื่น และขอให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้บุคลากรด่านหน้าและทีมประเทศไทยได้รวมพลังกันสู้เพื่อให้ผ่านวิกฤตการณ์ดังกล่าวนี้ไปให้ได้เร็วๆ
ส่วนกรณีการติดเชื้อภายในประเทศอินเดีย จะเกิดการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโควิดนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตนขอให้กำลังใจกับทุกประเทศที่ติดเชื้อเพิ่มขึ้นรายวัน และต้องให้กำลังใจซึ่งกัน ขออย่ารังเกียจกัน เพราะทุกคนอยู่บนโลกใบเดียวกัน แต่รัฐบาลจะต้องมีมาตรการเฉพาะ ยืนยันว่ามีมาตรการรับความเสี่ยงตรงนี้อยู่แล้ว รวมถึงมีการระงับเป็นการชั่วคราวในบางมาตรการ แต่ก็จะระมัดระวังอย่างที่สุด เพราะการบริหารสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศเป็นเรื่องต้องเห็นใจซึ่งกันและกัน อย่าใช้ความเกลียด ความไม่ชอบเป็นการส่วนตัวออกมาทำร้ายกัน วันนี้เป็นเวลาแห่งความรักความสามัคคีของคนไทยทั้งชาติ เราถึงจะชนะไปด้วยกัน.-สำนักข่าวไทย