18 พ.ย. – หญิงวัย 56 ปี เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ ก่อนนำทรัพย์สินไปขายใช้หนี้พนัน ตำรวจคุมตัวไปตามหาทรัพย์สินของกลาง อ้างลงมือก่อเหตุคนเดียว
กรณีนางวรรณา อายุ 65 ปี แม่ยายของอัยการที่หายตัวไปพร้อมทรัพย์สินมีค่าติดตัวหลังกลับจากทอดกฐินที่สำนักสงฆ์ซอยเย็นฤดี อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ภายหลังพบเป็นศพถูกฆ่าตัดนิ้วนางทั้งสองข้าง ทิ้งในสวนปาล์ม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง เจ้าหน้าที่ตามไปพบรถยนต์ทะเบียนชลบุรีที่ใช้ขับมารับผู้ตายออกไป จอดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ จ.ชลบุรี ทำให้ตำรวจขอหมายศาลบุกจับกุมนางกมลวรรณ อายุ 56 ปี เพื่อนของผู้ตาย มาสอบสวน เบื้องต้นผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธ รวมถึงไม่ปริปากบอกอะไร กระทั่งตำรวจเค้นสอบหนัก ทำให้ล่าสุดนางกมลวรรณ ยอมเปิดปากสารภาพว่าฆ่าตัดนิ้วเอาทรัพย์สินมีค่าของผู้ตายที่พกติดตัวไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งในตลาด อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี
โดยทรัพย์สินประกอบด้วย สร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท 1 เส้น, สร้อยข้อมือทองคำ หนัก 2 บาท 1 เส้น, แหวนเพชร 2 วง, ต่างหูทองคำ 1 คู่, ต่างหูทองคำฝังเพชร 1 คู่, นาฬิกาซิติเซ่นเรือนทอง 1 เรือน และโทรศัพท์มือถืออีก 1 เครื่อง
ส่วนตอนลงมือก่อเหตุวางแผนขับรถไปรับผู้ตายที่หน้าบ้าน จากนั้นลวงผู้ตายมากลางสวนปาล์ม ท้องที่หมู่ 3 ต.ป่ายุบใน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ซึ่งเป็นที่เปลี่ยว และผู้ต้องหาเคยอาศัยอยู่เมื่อ 20 ปีก่อน จากนั้นอาศัยทีเผลอใช้ท่อนเหล็กแป๊บกระหน่ำตีผู้ตายจนแน่นิ่ง แล้วใช้เหล็กแป๊บกระทุ้งนิ้วนางที่ผู้ตายสวมแหวนเพชรอยู่ กระทั่งนิ้วขาดจึงถอดเอาแหวนเพชรไป และโยนนิ้วของผู้ตายทิ้งไว้อยู่ในที่เกิดเหตุ ก่อนขับรถหนีออกมาจากจุดเกิดเหตุ
ทั้งนี้ ของกลางเหล็กแป๊บได้เอาไปโยนทิ้งถังขยะหน้าปากซอยใกล้จุดเกิดเหตุ ส่วนมือถือผู้ตายได้ทุบทำลายแล้วนำใส่ถุงไปโยนทิ้งคลองในเขต ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ส่วนทรัพย์สินมีค่าอย่างอื่นเอาไปขายร้านทอง ก่อนขับรถกลับบ้านพักที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
จากนั้นเช้าวันรุ่งขึ้นหลังก่อเหตุนำรถที่ขับไปรับผู้ตายไปล้างทำความสะอาด แต่ไม่รอดถูกตำรวจตามแกะรอยจับกุมตัวได้
ทั้งนี้ นางกมลวรรณ ย้ำด้วยว่าลงมือก่อเหตุคนเดียว โดยประสงค์ต่อทรัพย์สินมีค่าที่ผู้ตายสวมใส่ เพราะหวังว่าจะเอาเงินที่ขายของมีค่าไปใช้หนี้พนันที่ตนเองเล่นจนติดงอมแงม
ตำรวจจึงคุมตัวนางกมลวรรณไปติดตามของมีค่ากลับคืนมา แต่ยังไม่บอกแน่ชัดว่าจะคุมตัวไปทำแผนฯ ต่อหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตามกำหนดการช่วงบ่ายวันนี้ นางกมลวรรณต้องถูกคุมตัวส่งศาลเพื่อขออำนาจฝากขัง เพราะครบเวลาในการควบคุมตัวของพนักงานสอบสวนแล้ว.-สำนักข่าวไทย
คุมชี้จุดขายทอง-ร้าน แฉผู้ต้องหาอ้างอยากขายทองเก่า
ภายหลังตำรวจคุมตัวผู้ต้องหามาหาของกลางที่ร้านทองในเขตเทศบาลเมืองบ้านบึง ที่ผู้ต้องหานำแหวน 2 วง สร้อยคอ 1 บาท สร้อยข้อมือ 1 บาท ของผู้ตาย มาขาย แล้วได้เงินไป 88,300 บาท และในร้านมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดในเวลา 17.25 น. ของวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่จะเห็นรถของผู้ต้องหาขับมาจอด และผู้ต้องหาเดินเข้ามาเอาทองขายให้กับทางร้าน โดยอ้างชื่อเดิม และไม่ได้ให้บัตรประชาชน อ้างว่าบัตรประชาชนหาย ส่วนแหวนที่เอามาขายเพราะมันเบี้ยว สร้อยคอกับสร้อยข้อมือที่เอาออกมาขายพร้อมกันเพราะเห็นว่าเก่าแล้ว เมื่อขายเสร็จก็รับเงิน เดินออกจากร้านไป ซึ่งเจ้าของร้านทองยอมรับที่ยอมรับซื้อเพราะผู้ต้องหาพูดจาด้วยอาการสงบ เหมือนลูกค้าทั่วไป ไม่ได้แสดงอาการตื่นตระหนกตกใจ ทำให้ร้านไม่ได้เอะใจหรือสงสัยแต่อย่างใด
หลักฐานเด็ดมัดแน่นเหยื่อกำเส้นผมผู้ต้องหาอยู่ในมือ
พันตำรวจเอก พัฒนา รอบรู้ ผู้กำกับการ สภ.วังจันทร์ เปิดเผยว่า หลักฐานเด็ดที่มัดตัวผู้ต้องหานำไปสู่การออกหมายจับคือ พบเส้นผมของผู้ต้องหาอยู่ในมือของผู้ตาย ตอนแรกตำรวจไม่ปักใจเชื่อว่าลงมือทำคนเดียว กระทั่งพบหลักฐานที่ใช้ตีที่ศีรษะของผู้ตาย การตัดนิ้วเอาแหวนไป สอดคล้องกับคำสารภาพ รวมถึงวงจรปิดของร้านทองที่เห็นชัดว่าผู้ต้องหาก่อเหตุคนเดียว
ด้านน้องชายของผู้ตายยอมรับเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้ต้องหากระทำการโหดร้ายเกินไป ส่วนตัวมั่นใจหากผู้ต้องหาขอกันดีๆ พี่สาวต้องให้ เพราะพี่สาวเป็นคนจิตใจดีมาก.-สำนักข่าวไทย