พร้อมอัญเชิญ พระเขี้ยวแก้ว จากจีนประดิษฐานในไทย 4 ธ.ค.67

กทม.18พ.ย.-รมว.“สุดาวรรณ”เผย วธ.ร่วมสำนักนายกรัฐมนตรีเตรียมพร้อมอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากจีนมาประดิษฐานในไทย วันที่ 4 ธ.ค.67-14 ก.พ.68 เดินหน้าสร้างอาคารมณฑป ริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ 24 ขบวน ผู้เข้าร่วมกว่า 2,700 คน จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ กิจกรรมทางพุทธศาสนาในโอกาสวันสำคัญของไทย – จีน เชิญชวนพุทธศาสนิกชนเข้ากราบสักการะ ณ ท้องสนามหลวง


นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนได้เห็นชอบร่วมกันให้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐานที่กรุงเทพมหานครเป็นการชั่วคราว เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสการครบรอบ 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – จีน ในปีพ.ศ.2568 โดยเปิดให้ประชาชนสักการะระหว่างวันที่ 4 ธันวาคม 2567 – 14 กุมภาพันธ์ 2568 รวมเป็นเวลา 73 วัน ณ ท้องสนามหลวง และจะอัญเชิญกลับสาธารณรัฐประชาชนจีนในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 นั้น ในส่วนของกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.)ได้รับมอบหมายจากสำนักนายกรัฐมนตรีให้ดำเนินการเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารมณฑป การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว)และจัดกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ การออกแบบและจัดสร้างอาคารมณฑปสำหรับใช้เป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) โดยมีรูปแบบสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างศิลปะไทย – จีน ขณะนี้วธ.อยู่ระหว่างดำเนินการในเรื่องนี้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ วธ.ร่วมกับหน่วยงานต่างๆจัดขบวนรถอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ในวันที่ 4 ธันวาคม 2567 จากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 มายังลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ หลังจากนั้นจัดริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จากลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ไปยังท้องสนามหลวง จำนวน 24 ขบวน ผู้เข้าร่วมเดินริ้วขบวนจากหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ สำนักพระราชวัง กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร โรงเรียนจิตอาสา 904 สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย สมาคมอุปรากรจีนแห่งประเทศไทย ผู้แทน 5 ศาสนาทั้งพุทธ คริสต์ อิสลาม พราหมณ์-ฮินดูและซิกข์ พุทธศาสนิกชนและกลุ่มชาติพันธุ์ จำนวนทั้งหมดกว่า 2,700 คน ได้แก่ 1. ขบวนป้ายนำขบวน 2.ขบวนโคมไทย – จีน 3.ขบวนบายศรีภาคเหนือ 4. ขบวนบายศรีภาคใต้ 5. ขบวนแตรวง 6.ขบวนบายศรีภาคกลาง 7.ขบวนบายศรีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8.ขบวนการแสดงอุปรากรจีน 9.ขบวนการแสดงกลุ่มชาติพันธุ์ 10. ขบวนการแสดงคณะผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย 11. ขบวนวงดุริยางค์ กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 12. ขบวนธงชาติไทย 13. ขบวนธงชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน 14. ขบวนธงธรรมจักร 15. ขบวนธงฉัพพรรณรังสี 16.ขบวนโคมบัว 17. ริ้วขบวนอิสริยยศอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) 18.ขบวนรถพระพุทธรูป 19. ขบวนรถอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) 20. ขบวนรถเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 21. ขบวนคณะผู้บริหารและข้าราชการ กระทรวงวัฒนธรรม 22. ขบวนศาสนิกสัมพันธ์ 5 ศาสนา 23. ขบวนพุทธศาสนิกชนและ 24. ขบวน“จิตอาสา”


นางสาวสุดาวรรณ กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกันวธ.จะจัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสสำคัญในห้วงระยะเวลาการประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ณ ท้องสนามหลวง ได้แก่ พิธีเจริญพระพุทธมนต์รับพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาถึงประเทศไทย วันที่ 4 ธันวาคม 2567 ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี วันที่ 31 ธันวาคม 2567 ณ ท้องสนามหลวง กิจกรรมทำบุญตักบาตรวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2568 วันที่ 1 มกราคม 2568 ณ ท้องสนามหลวงกิจกรรมเนื่องในวันตรุษจีน วันที่ 29 มกราคม 2568 ณ ท้องสนามหลวง กิจกรรมเนื่องในวันมาฆบูชา วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 ณ ท้องสนามหลวง และพิธีเจริญพระพุทธมนต์ส่งพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) กลับสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ ท้องสนามหลวง และห้องรับรอง ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6

วธ.ได้ร่วมกับสำนักนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานต่างๆดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาประดิษฐานในไทย โอกาสในครั้งนี้จะช่วยสานต่อมิตรภาพอันยาวนานระหว่างไทยกับจีนให้มีความแน่นแฟ้นมากขึ้นผ่านความสัมพันธ์ทางพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมที่ผ่านมารัฐบาลทั้งสองประเทศให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างและต่อยอดความสัมพันธ์ทางพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมระหว่างกันมาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นนาฏศิลป์ ภาพยนตร์ จิตรกรรม ประติมากรรม มรดกภูมิปัญญาและพระพุทธศาสนา ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวจีนในประเทศไทยเข้ากราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม 612 .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“การท่าเรือฯ” ลงนามในสัญญาจ้างเหมาต่อเรือขุดลำใหม่

“มนพร” เร่งรัด “การท่าเรือฯ” ลงนามในสัญญาจ้างเหมาต่อเรือขุดลำใหม่ ทดแทนเรือสันดอน 7 ที่เสื่อมสภาพ หวังเพิ่มศักยภาพด้านการขุดลอก สนองนโยบายกระทรวงคมนาคม ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพ – ลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์

ตรวจสอบความสัมพันธ์ “โกทร-ส.จ.โต้ง” หลังปรากฏข้อมูลอาจเป็นลูกแท้ๆ

กองปราบฯ เร่งตรวจสอบความสัมพันธ์ “โกทร-สจ.โต้ง” หลังปรากฏข้อมูลว่าอาจเป็นลูกแท้ๆ ของ “โกทร” ที่เกิดจากภรรยาเก่า

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ตร.ขยายผลค้นตัวชายคลั่งพบกระสุนเพียบ

ตำรวจขยายผลหาหลักฐานคดีชายยิงเครือญาติและชาวบ้าน เสียชีวิต 2 ราย พบกระสุนปืนในตัวผู้ก่อเหตุจำนวนมาก ขณะที่สอบปากคำ ครอบครัวชายคลั่งพบมีอาการผิดปกติทางจิต ไม่ยอมไปตรวจรักษา

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อธิบดีกรมที่ดิน ยันไม่ฟ้องการรถไฟฯ ปมที่ดินเขากระโดง

อธิบดีกรมที่ดิน ยันไม่ฟ้องการรถไฟฯ ปมที่ดินเขากระโดง บอกเพิกถอนหรือไม่ หลักฐานต้องชัด 100% ก่อนโพล่งต่างจากคดี “อัลไพน์” เหตุเป็นเรื่องนิติกรรม