กรุงเทพฯ 20 เม.ย.- PEA หารือ บอร์ด กกพ. สรุปไม่สามารถยื่นเสนอขายไฟฟ้าโรงไฟฟ้าชุมชนนำร่องระบบออนไลน์ได้ ต้องยื่นเสนอเป็นซองเทคนิค/ราคาพร้อมกัน 27-30 เม.ย. โดยผู้สมัครต้องยื่นออนไลน์เพื่อรับคิวเข้ามายื่นซอง ในวันที่ 26 เม.ย.
นายเสกสรร เสริมพงศ์ รองผู้ว่าการวางแผนและพัฒนาระบบไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ PEA เปิดเผยว่า ในวันนี้ พีอีเอได้หารือกับ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือกกพ. ด้านกฎระเบียบการยื่นเสนอโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) 150 เมกะวัตต์ วันที่ 27-30 เม.ย. โดยตามระเบียบ กกพ. ระบุชัดไม่สามารถแยกการเสนอซองด้านเทคนิคและซองราคาได้ จะต้องยื่นเป็นเอกสารมาพร้อมกัน ดังนั้น จากข้อเสนอเดิมที่ PEA จะเปิดให้ยื่นเสนอทางเทคนิคเป็นระบบออนไลน์ได้ แล้วให้ยื่นราคาเป็นซองเอกสาร จึงไม่สามารถดำเนินการได้
ดังนั้น ที่ประชุม จึงเห็นร่วมกันว่า ให้ยื่นเอกสารทั้งราคาและเทคนิค ภายในวัน 27-30 เมษายนี้ ที่ อาคารคลับเฮ้าส์ ชั้น 1 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สำนักงานใหญ่ เวลา 8.30 น. – 16.30 น. อย่างไรก็ตาม เพื่อลดความแออัด และป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทาง PEA จะเปิดให้ผู้สนใจยื่นซองเสนอราคา ทำการสมัครเพื่อรับคิวเข้ามายื่นเอกสาร เป็นระบบออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ ppim.pea.co.th ในวันที่ 26 เม.ย. โดยให้ลงทะเบียนได้ ตั้งแต่เวลา 00.01 น.เป็นต้นไป โดย แต่ละวันจะเปิดให้ เข้ามาสมัคร ยื่นได้ วันละ 6 รอบเวลา ตามข้อกำหนด รวม 84 คิว/วัน เมื่อรับสมัคร 4 วันก็จะมีคิว 336 คิว ซึ่งคาดว่าจะเพียงพอสำหรับการสมัครเข้าร่วมโครงการครั้งนี้ โดยต้องขอความร่วมมือในการนำส่งเอกสารให้ใช้ผู้ส่งเอกสารให้น้อยที่สุด 1-2 รายต่อบริษัท
“แม้จะคาดว่าเอกสารของแต่ละรายผู้ยื่นโครงการ โรงไฟฟ้าชุมชน อาจจะมีมาก เช่น เอกสารขอใช้ที่ดิน ความร่วมมือด้านต่างๆ แต่ก็ต้องขอให้ผู้สมัครส่งคนมายื่นเอกสารให้น้อยที่สุด 1-2 คนต่อโครงการ ซึ่งการให้สมัครขอคิวล่วงหน้า ทางออนไลน์ ppim.pea.co.th ก็จะเป็นการทำคิวไม่ให้เกิดความแออัด ซึ่งการยื่นก่อนหรือยื่นทีหลังไม่มีผลต่อการพิจารณาคัดเลือกแต่อย่างใด “นายเสกสรร กล่าว
สำหรับสถานที่ยื่นเอกสารคำเสนอขอขายไฟฟ้าด้านด้านราคา อยู่ที่ อาคารคลับเฮ้าส์ ชั้น 1 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สำนักงานใหญ่ เวลา 8.30 น. – 16.30 น. ส่วนการประกาศผลการพิจารณาคัดเลือกทางด้านเทคนิค กฟภ. จะประกาศผล ทาง เว็บไซต์ https://ppim.pea.co.th วันที่ 21 พฤษภาคม 2564 ส่วน คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน จะเป็นผู้พิจารณาด้านราคาต่อไป –สำนักข่าวไทย