PEA เร่งตรวจสอบกรณีผู้ป่วยติดเตียงเสียชีวิตที่ นครพนม

กรุงเทพฯ 3 ต.ค. – PEA เร่งตรวจสอบกรณีผู้ป่วยติดเตียงเสียชีวิตที่นครพนม ยืนยันนโยบายไม่ตัดกระแสไฟฟ้าสถานที่หรือบ้านที่มีผู้ป่วยที่ต้องใช้ไฟฟ้าในการเดินเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อการรักษาพยาบาล


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดกรณี น.ส.นงลักษณ์ จันทร์ชนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านนาขาม ต.วังยาง อ.วังยาง จ.นครพนม พร้อมญาติผู้เสียชีวิตออกมาเรียกร้องให้ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ตรวจสอบ กรณีนางเกียน อายุ 68 ปี ผู้ป่วยติดเตียง จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น เครื่องผลิตออกซิเจน เครื่องช่วยหายใจ และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 ต.ค.67 หลังถูกตัดไฟฟ้าเพราะมีบิลค่าไฟฟ้าค้างชำระ ทาง PEA เร่งเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นพบว่า PEA มีการแจ้งเตือนให้ชำระเมื่อวันที่ 25 ก.ย. ก่อนที่จะเข้าไปตัดไฟฟ้าเมื่อวันที่ 1 ต.ค. โดยที่ผ่านมา PEA ได้ให้ความสำคัญเป็นนโยบายหลัก คือ สถานที่หรือบ้านที่มีผู้ป่วยที่ต้องใช้ไฟฟ้าในการเดินเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อการรักษาพยาบาล จะไม่ตัดกระแสไฟฟ้า โดยให้แจ้งขึ้นทะเบียนกับ PEA ในท้องที่ ซึ่งพบว่ารายนี้ไม่ได้ขึ้นทะเบียนผู้ป่วยติดเตียงแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม PEA จะเร่งตรวจสอบกับเหตุการณ์นี้อย่างเร่งด่วน ว่าปัญหาที่แท้จริงคืออะไร โดยไม่ว่าจะกรณีใดๆ ก็ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต

ทั้งนี้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) มีหลักเกณฑ์ยกเว้นการงดจ่ายไฟฟ้า (ไม่ตัดกระแสไฟฟ้า) กับสถานที่หรือบ้านที่มีผู้ป่วยที่ต้องใช้ไฟฟ้าในการเดินเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อการรักษาพยาบาล ดังนี้


  1. ผู้ใช้ไฟฟ้าติดต่อลงทะเบียนที่สำนักงาน PEA ในพื้นที่ทุกแห่ง เอกสารที่ต้องใช้ในการลงทะเบียน ดังนี้
    -บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ใช้ไฟฟ้า
    -บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ป่วย หรือสำเนา
    -ใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาล มีอายุไม่เกิน 1 เดือน นับแต่วันที่ออกใบรับรองแพทย์ที่ระบุว่าผู้ป่วยที่ต้องใช้ไฟฟ้าในการเดินเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อการรักษาพยาบาล
    -หลักฐานแสดงสถานที่ใช้ไฟฟ้า เช่น ใบเสร็จรับเงินค่าไฟฟ้า หรือสัญญาซื้อขายไฟฟ้าหรือสำเนาทะเบียนบ้านสถานที่ใช้ไฟฟ้า
    -ในกรณีที่มอบอำนาจให้ผู้อื่นมาดำเนินการแทน ต้องมีหลักฐานแสดงตัวของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ
  2. PEA สงวนสิทธิ์การเข้าตรวจสอบสถานที่ใช้ไฟฟ้า
  3. ยื่นลงทะเบียนเพื่อรักษาสิทธิต่อเนื่องภายในวันที่ 31 มกราคม ของทุกปี
  4. กรณีไม่มีความจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าในการเดินเครื่องมือทางการแพทย์ ต้องแจ้งยกเลิกกับ PEA ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่สิ้นสุดความจำเป็น
  5. PEA จะยกเลิกสิทธิ ในกรณีดังนี้
    -ค้างชำระค่าไฟฟ้ารวมกัน 3 เดือน
    -ตรวจพบการกระทำโดยมิชอบ/การละเมิดการใช้ไฟฟ้า
    -แจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จ
    -ตรวจพบผู้ป่วยยกเลิกการใช้เครื่องมือทางการแพทย์ แต่ไม่มีการแจ้งยกเลิกกับ PEA. -511-สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก