บางกอกอารีนา หนองจอก 21 เม.ย.- นายกรัฐมนตรี พอใจเตรียมความพร้อมโรงพยาบาลสนาม ขอความร่วมมือโรงแรมทำ Hospitel เมิน “ทักษิณ” เสนอตัวจัดหาวัคซีน ชี้หากคุมโควิดรอบนี้ไม่อยู่ จะยกระดับมาตรการใช้ยาแรง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุภายหลังตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนามเอราวัณ 2 บางกอกอารีนา เขตหนองจอก พอใจในการเตรียมความพร้อม และขณะนี้โรงพยาบาลสนามใน กทม. สามารถรองรับผู้ติดเชื้อได้ 3,000 เตียง โดยโรงพยาบาลสนามจะเป็นพื้นที่ของผู้ป่วยสีเขียว หรือผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ แต่ต้องกักตัว 14 วัน จึงขอให้ผู้ป่วยอดทน แต่หากเป็นผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดง จะต้องเข้ารับรักษาตัวในโรงพยาบาลเท่านั้น และจะนำผู้ติดเชื้อเข้ารักษาในโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด รวมถึงมีการเตรียม Hospitel พร้อมกับขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ทำเป็น Hospitel โดยขอให้เสนอความต้องการกลับยังรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลจะดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายให้ รวมถึงต้องดูแลเรื่องเศรษฐกิจเพื่อไม่ให้มีการเลิกจ้างงาน พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลมีความพร้อมในการรับมือแม้สถานการณ์ขณะนี้จะดูรุนแรง โดยตนขอประเมินสถานการณ์อีกระยะว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ หากสถานการณ์ไม่รุนแรงก็ไม่ต้องยกระดับถึงขั้นเคอร์ฟิว เพราะจะส่งผลกระทบกับผู้มีรายได้น้อย แต่หากสามารถควบคุมได้ก็จะเป็นไปตามขั้นตอนที่วางไว้ เช่นการฉีดวัคซีน
“หากไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ก็จำเป็นต้องใช้มาตรการที่แรงขึ้น ซึ่งเราทุกคนไม่อยากให้เป็นแบบนั้น และตนก็รู้สึกเห็นใจประชาชนผู้มีรายได้น้อย”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า สำหรับเรื่องการนำเข้าวัคซีนได้ตรวจสอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้วว่าไม่ได้มีความล่าช้า แต่ปัญหาคือวัคซีนทยอยเข้ามา และจะมีการฉีดเป็นระยะ โดยจะแจกจ่ายไปทุกจังหวัด ตามพื้นที่ความเสี่ยงและจากลำดับความสำคัญ ไม่ใช่วัคซีนเข้ามาแล้วบอกว่าฉีดเข็มเดียวพอ แต่ต้องเตรียมพร้อมรับความเสี่ยง หากวัคซีนเข็มที่ 2 มีปัญหาในการส่งมอบ ซึ่งทั้งโลกก็มีปัญหาหมด
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้พูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดทำวัคซีนเพิ่มเติม ซึ่งสามารถนำเข้าได้ แต่ต้องเป็นไปตามกติกา เนื่องจากเป็นวัคซีนที่ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่มีใครรับผิดชอบได้นอกจากรัฐบาล เพราะต้องดูแลผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เช่น ผลข้างเคียงในการฉีด และขอบคุณภาคเอกชนที่พร้อมจะช่วยรัฐบาลในเรื่องงบประมาณ
“รัฐบาลจะทำอย่างเต็มที่เพื่อให้ประชาชนปลอดภัย แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตัว และอยากให้ฟังข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางของรัฐ เนื่องจากบางครั้งมีความคิดเห็นหลากหลาย ทำให้ไม่รู้จะเชื่อข้อมูลใด ทำให้เป็นปัญหา ซึ่งตนไม่โทษใคร เพราะอย่างไรตนเองก็รับผิดชอบอยู่แล้ว ทุกเรื่องในประเทศไทยที่เป็นปัญหาความเดือดร้อน รัฐบาลนี้พร้อมดูแลแก้ปัญหาทุกอย่างให้ดีที่สุด และทราบดีอยู่แล้วว่าประเทศมีปัญหาอะไร แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความร่วมมือของประชาชน อะไรที่ไม่ เป็นประโยชน์อ่านได้ แต่ขออย่าเชื่อทั้งหมด”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ ยังปฎิเสธที่จะแสดงความเห็นกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาเสนอตัวประสานเรื่องวัคซีนโควิด กับ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย โดยกล่าวสั้นว่า “ผมไม่ตอบ อย่าเอาคำถามคนที่ไม่ได้อยู่ในประเทศไทยมาถามผม ผมไม่รู้จัก ผมไม่รู้เรื่องเขา”.- สำนักข่าวไทย