ชัวร์ก่อนแชร์: โดนัลด์ ทรัมป์ IQ สูงกว่า กมลา แฮร์ริส จริงหรือ?

17 พฤศจิกายน 2567
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

ในระหว่างการหาเสียงเพื่อชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีการนำระดับเชาวน์ปัญญา หรือ IQ จากตัวแทนของทั้ง 2 พรรคมาวิพากษ์วิจารณ์ทางโลกออนไลน์ โดยอ้างว่า กมลา แฮร์ริส ตัวแทนของพรรคเดโมแครตมี IQ ที่ต่ำ หรือเพียง 78 ต่างจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนของพรรครีพับลิกันที่มี IQ สูงถึง 156

บทสรุป :

1. ไม่มีหลักฐานว่า กมลา แฮร์ริส มี IQ แค่ 78
2. ไม่มีหลักฐานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ มี IQ ถึง 156

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

อย่างไรก็ดี ไม่พบหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า ผู้ชิงตำแหน่งทั้ง 2 มีระดับเชาวน์ปัญญาตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด

ข่าวลือเรื่อง IQ ของ กมลา แฮร์ริส ถูกเผยแพร่โดยผู้ใช้แพลตฟอร์ม X ที่อ้างอิงข้อความที่โพสต์ในเว็บไซต์ Reddit อีกทอดหนึ่ง โดยข้อความในเว็บไซต์ Reddit อ้างว่า ผู้โพสต์เคยเรียนวิชาจิตวิทยาในมหาวิทยาลัยฮาเวิร์ด (Howard University) ร่วมกับ กมลา แฮร์ริส ขณะที่เพื่อนร่วมชั้นผ่านการทดสอบระดับเชาวน์ปัญญาด้วยคะแนนสูงกว่า 115 ขึ้นไป แต่ กมลา แฮร์ริส กลับทำคะแนนได้เพียง 78 แต่เธอกลับคิดว่าคะแนนเต็มคือ 80 ก่อนจะหัวเราะเหมือนกับผู้มีปัญหาทางจิต

แม้ข้อความที่แชร์ทาง X จะมียอดวิวต่อโพสต์มากกว่าล้านครั้ง แต่การตรวจสอบไม่พบว่าข้อความต้นฉบับทาง Reddit มีหลักฐานอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ ก่อนโพสต์จะถูกลบโดยผู้โพสต์เอง

การตรวจสอบโดย Fact Checker จากเว็บไซต์ Snopes ไม่พบหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่า กมลา แฮร์ริส มี IQ ระดับใด และเชื่อว่าข้อมูลที่กล่าวอ้างทางออนไลน์ น่าจะเป็นเพียงการคาดการณ์เพื่อหวังผลทางการเมืองเท่านั้น

ย้อนไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว โลกออนไลน์เคยอ้างว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งขณะนั้นเพิ่งจะก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2016 เป็นผู้นำที่มี IQ สูงมาก โดยคาดว่ามีระดับเชาวน์ปัญญาสูงถึง 156 และถือเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มี IQ สูงเป็นอันดับที่ 2 เลยทีเดียว

ผู้โพสต์ทางออนไลน์ ทำการประเมิน IQ ของโดนัลด์ ทรัมป์ กับข้อมูลระดับเชาวน์ปัญญาของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดย ดีน ไซมอนตัน นักจิตวิทยา จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเดวิส ที่จัดทำเมื่อปี 2006

ขณะที่การวัดระดับเชาวน์ปัญญาในปัจจุบัน จะรู้ผลผ่านการทำแบบทดสอบ แต่การประเมินระดับ IQ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตั้งแต่อดีตจนถึงปี 2006 ดีน ไซมอนตัน ได้ใช้วิธีประเมินผ่านกระบวนการ Historiometric Approach ซึ่งเป็นการนำตัวแปรที่มีความสัมพันธ์คต่อระดับเชาวน์ปัญญามาใช้ในการคำนวณ อาทิ ระดับการศึกษา รางวัลทางวิชาการ คะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัย อาชีพ และปัจจัยอื่น ๆ

ที่มา IQ 156 ของ โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเผยแพร่ครั้งแรกเมื่อปี 2015 มาจากบทความใน BeforeItsNews.com เว็บไซต์ที่มีประวัติเผยแพร่ข่าวปลอม

ผู้โพสต์ข้อความใช้วิธีประเมินระดับเชาวน์ปัญญาของ โดนัลด์ ทรัมป์ ด้วยการนำคะแนน SAT หรือผลสอบที่ใช้สมัครเข้ามหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ โดยเป็นการวัดความถนัดด้านการคำนวณและทักษะการใช้ภาษา

โดยคะแนน SAT ในระดับมาตรฐานสำหรับสมัครเข้าวิทยาลัยวอร์ตัน คณะพาณิชยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ซึ่ง โดนัลด์ ทรัมป์ สำเร็จการศึกษาเมื่อปี 1968 อยู่ที่ 1,500 คะแนน

งผู้เขียนบทความใน BeforeItsNews.com อ้างว่า คะแนน SAT 1,500 คะแนน เทียบเท่ากับ IQ ระดับ 156 ซึ่งผู้ที่มี IQ ระดับนี้ จัดอยู่ในเปอร์เซ็นไทล์ที่ 99.9905490555 ผู้เขียนจึงอ้างว่า โดนัลด์ ทรัมป์ มีความเฉลียวฉลาดมากกว่าระดับสติปัญญาของชาวโลกทั่วไปกว่า 99.99%

แต่กระนั้น การคำนวณของ BeforeItsNews.com มีข้อบกพร่องหลายจุดที่ไม่อาจนำไปสู่บทสรุปดังกล่าวได้

ข้อมูลจาก PrepScholar.com พบว่าคะแนน SAT ที่ใช้สมัครเข้าวิทยาลัยวอร์ตันอยู่ที่ 1,500 เมื่อนำไปประเมินเป็นระดับเชาวน์ปัญญาจะมีค่าระหว่าง 145-149 ไม่ใช่ IQ 156 ตามที่กล่าวอ้าง

อย่างไรก็ดี การนำคะแนน SAT มาคำนวณหาระดับ IQ ไม่สามารถใช้ได้ในกรณีของ โดนัลด์ ทรัมป์ เนื่องจากอดีตผู้นำสหรัฐฯ ไม่ได้สมัครเข้าวิทยาลัยวอร์ตันตั้งแต่ปี 1 แต่ย้ายมาเรียนก่อนขึ้นปี 3 โดยย้ายจากมหาวิทยาลัยฟอร์แดมในปี 1966 ซึ่งวิทยาลัยวอร์ตันไม่ได้ระบุคะแนน SAT สำหรับใช้ในการรับสมัครนักศึกษาที่ย้ายเข้ามาเรียนตอนปี 3 อีกด้วย

ในหนังสือชีวประวัติ The Trumps : Three Generations That Built an Empire ของ เกวนดา แบลร์ ที่ตีพิมพ์เมื่อปี 2000 เล่าว่า สมัยศึกษายังมหาวิทยาลัยฟอร์แดม โดนัลด์ ทรัมป์ มีผลการเรียนระดับ ดีพอใช้ เท่านั้น ซึ่งสาเหตุที่เขาได้รับเลือกให้มาศึกษายังวิทยาลัยวอร์ตัน เนื่องจากอิทธิพลจากครอบครัวที่มีชื่อเสียงของเขานั่นเอง

ในหนังสือระบุว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายคัดเลือกนักศึกษาซึ่งเป็นผู้สัมภาษณ์ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นอดีตเพื่อนร่วมชั้นระดับไฮสคูลของพี่ชายโดนัลด์ ทรัมป์ และฝ่ายคัดเลือกนักศึกษาของวิทยาลัยวอร์ตันก็ต้องรู้ดีว่า โดนัลด์ ทรัมป์ คือสมาชิกของหนึ่งในครอบครัวที่ร่ำรวยที่สุดของนิวยอร์ก

ส่วนการจะนำผลการเรียนของ โดนัลด์ ทรัมป์ มาคำนวณหาระดับสติปัญญาก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะในปี 2015 ทีมกฎหมายของ โดนัลด์ ทรัมป์ สั่งห้ามโรงเรียนและมหาวิทยาลัยของอดีตผู้นำสหรัฐฯ ไม่ให้นำผลการเรียนและผลการสอบของเขามาเปิดเผยต่อสาธารณชน

แม้จะไม่มีหลักฐานยืนยันได้ว่า ผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทั้ง 2 มีระดับ IQ เท่าใด แต่ประเด็นดังกล่าวถูกนำมาใช้โจมตีในช่วงการหาเสียงอย่างเผ็ดร้อน เมื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหา กมลา แฮร์ริส ว่าไม่เหมาะจะเป็นผู้นำประเทศ เพราะมี IQ ต่ำ ส่วน กมลา แฮร์ริส ยืนยันว่า ตนพร้อมที่จะเข้ารับการทดสอบวัดระดับเชาวน์ปัญญา และชวนให้ โดนัลด์ ทรัมป์ มาร่วมทำการทดสอบพร้อม ๆ กับเธอด้วย

ดีน ไซมอนตัน นักจิตวิทยา จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเดวิส ผู้จัดการประเมินระดับเชาวน์ปัญญาของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี 2006 ระบุว่า เป็นเรื่องยากที่จะวัดระดับ IQ ของ โดนัลด์ ทรัมป์ เนื่องจากข้อมูลมีอย่างจำกัด และการที่อดีตผู้นำสหรัฐฯ มักสื่อสารด้วยข้อความสั้น ๆ ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดที่ซับซ้อนได้

ดีน ไซมอนตัน ไม่คิดเช่นกันว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน จะเป็นผู้นำที่มี IQ สูง เพราะไม่เคยเห็นไบเดนแสดงไหวพริบที่โดดเด่น นอกจากนี้ พื้นฐานของเขายังเป็นคนที่มีผลการเรียนระดับดีพอใช้ และยังศึกษาในสถาบันระดับปานกลาง จึงน่าจะจัดเป็นผู้นำที่มีสติปัญญาปานกลาง การที่เขาก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ น่าจะมาจากคุณสมบัติด้านบุคลิกภาพเป็นสำคัญ

เฟรด กรีนสไตน์ ศาสตราจารย์กิตติคุณ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยพรินสตัน ระบุ 6 คุณสมบัติที่ใช้วัดสติปัญญาของผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้แก่ การสื่อสารกับมวลชน ความสามารถด้านการบริหารจัดการ ทักษะทางการเมือง วิสัยทัศน์ รูปแบบการคิดเฉพาะตัว และความฉลาดทางอารมณ์

ดร.บาร์บารา เอ. เพอร์รี ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาเกี่ยวกับประธานาธิบดี มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย วิเคราะห์ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ทำคะแนนได้แย่ในด้านความฉลาดทางอารมณ์ รูปแบบการคิดเฉพาะตัว วิสัยทัศน์ และความสามารถด้านการบริหารจัดการ แต่ทำได้ดีในด้านการสื่อสารกับมวลชนและทักษะทางการเมือง จนกรุยทางสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปี 2016 ได้สำเร็จ

ดีน ไซมอนตัน อธิบายว่า โดยทั่วไปแล้วประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะมีระดับสติปัญญาสูงกว่าคนทั่วไป แต่การฉลาดมากเกินไปก็อาจไม่มีประโยชน์ เพราะประชาชนจะไม่สนับสนุนผู้นำที่พวกเขาเข้าไม่ถึง ดังนั้น ชาวอเมริกันจึงควรเลือกผู้นำที่ฉลาดพอที่จะแก้ปัญหาที่ซับซ้อน แต่ยังสามารถอธิบายความหมายให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจได้

ดร.แฟรง ลอว์ลิส ตัวแทนของหน่วยงาน American Mensa ซึ่งดูแลมาตรฐานการวัดระดับ IQ ในสหรัฐอเมริกา ยืนยันว่า ระดับ IQ ไม่สามารถอธิบายระดับสติปัญหาของผู้คนได้ทั้งหมด หากมีการทดสอบระดับ IQ ของบุคคลที่เป็นอัจฉริยะ เช่น อัลเบิร์ต ไอสไตน์ คะแนนของเขาอาจจะไม่สูงเหมือนที่ผู้คนคาดหวัง เนื่องจากคุณลักษณะการเป็นคนคิดนอกกรอบของเขา ไอสไตน์อาจกำลังจินตนาการถึงความเป็นไปได้หลาย 10 วิธีจากคำถามเพียงข้อเดียวอยู่ก็เป็นได้

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.politifact.com/factchecks/2024/oct/31/viral-image/harris-responded-to-question-about-cognitive-tests/
https://www.snopes.com/fact-check/harris-iq-score-78/
https://www.snopes.com/fact-check/donald-trumps-intelligence-quotient/
https://www.bbc.com/news/world-us-canada-41573846
https://www.voanews.com/a/america-s-smartest-and-dumbest-presidents-/6825199.html