ยธ.15 มี.ค.-รมว.ยธ.ยันพักโทษ “สรยุทธ” เพราะช่วยงานความมั่นคง ขณะที่อธิบดีราชทัณฑ์ เผยคู่สรยุทธก็ได้ลดโทษ แต่ยังไม่เข้าเกณฑ์พักโทษ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) กล่าวถึงการพักโทษกรณีมีเหตุพิเศษของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ว่า ราชทัณฑ์มีผู้ต้องขังที่มีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ได้รับการพักโทษกรณีมีเหตุพิเศษและติดกำไลอีเอ็มเช่นเดียวกับนายสรยุทธ แต่มีจำนวนไม่มาก กรณีนายสรยุทธได้รับการพักโทษ เพราะนายสรยุทธได้ทำประโยชน์ช่วยเหลืองานของราชทัณฑ์ในช่วงที่เชื้อโควิด-19 ระบาด ซึ่งผู้ต้องขังเกิดความหวั่นกลัวจนเกิดการจลาจลเผาเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ เสียหายกว่า 100 ล้านบาท และปัจจุบันยังซ่อมแซมไม่เสร็จ หากเกิดเหตุเช่นนี้อีกจะสร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติ ราชทัณฑ์ต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่น จึงใช้โอกาสนี้ให้นายสรยุทธดำเนินรายการเพื่อเผยแพร่ความรู้ข้อมูลสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 แต่ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องบุญคุณมาเกี่ยวข้อง แต่เป็นช่วยงานด้านความมั่นคง
ด้านนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ออกเอกสารชี้แจงว่า กรมราชทัณฑ์เคยชี้แจงเรื่องการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษของนายสรยุทธไปแล้วว่าเป็นไปตามประโยชน์ของผู้ต้องขังจากการทำหน้าที่ผลิตสื่อ “เรื่องเล่าชาวเรือนจำ” และ “กำลังใจสู่ชาวเรือนจำ” เผยแพร่ให้ผู้ต้องขังทั่วประเทศได้รับรู้ข้อมูลสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด -19 อย่างทั่วถึง และเป็นการผ่อนคลายลดความเครียดวิตกกังวลที่อาจส่งผลให้ผู้ต้องขังก่อเหตุจลาจลขึ้นได้ ซึ่งเป็นไปตามกฎกระทรวงกำหนดประโยชน์ของนักโทษเด็ดขาดและเงื่อนไขที่นักโทษเด็ดขาดได้รับการลดวันต้องโทษจำคุกหรือการพักการลงโทษ และได้รับการปล่อยตัวต้องปฏิบัติ พ.ศ. 2562 ข้อ 17 วรรคสอง และข้อ 18 รวมถึงมาตรา 52 ของพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 ที่ให้ประโยชน์แก่นักโทษเด็ดขาดทุกรายที่แสดงให้เห็นว่ามีความประพฤติดี มีความอุตสาหะ มีความก้าวหน้าในการศึกษา และทำการงานเกิดผลดี หรือทำความชอบแก่ทางราชการเป็นพิเศษ อาจได้รับการพิจารณาเลื่อนชั้น การลดวันต้องโทษจำคุก การพักการลงโทษ ซึ่งนอกจากกรณีของนายสรยุทธ ยังมีนักโทษเด็ดขาดที่ได้รับการปล่อยตัวพักการลงโทษในโครงการเดียวกันนี้แล้วกว่า 13,000 ราย
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวอีกว่า การพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ โครงการพักการลงโทษนักโทษเด็ดขาดที่มีโทษระยะสั้นที่นายสรยุทธได้รับ เป็นโครงการสำหรับนักโทษเด็ดขาดชั้นกลางขึ้นไป จำคุกครั้งแรกที่ได้รับโทษมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของกำหนดโทษ และเหลือโทษที่ต้องได้รับต่อไปอีกไม่เกิน 5 ปี ซึ่งในขณะพิจารณาการพักการลงโทษ นายสรยุทธเป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นเยี่ยม ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีกำหนดโทษตามคำพิพากษา 6 ปี 24 เดือน
ต่อมาได้รับพระราชทานอภัยโทษตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2563 ทั้ง2 รอบ คงเหลือโทษจำคุกครั้งหลังสุด 3ปี 6เดือน 20 วัน เมื่อหักวันต้องโทษจำคุกมาแล้ว จึงเหลือโทษจำคุกต่อไปอีก 2 ปี 2 เดือน 14 วัน จึงถือว่ามีคุณสมบัติครบตามหลักเกณฑ์การพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ และได้รับการปล่อยตัวพักการลงโทษ เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องติดกำไลอีเอ็มและต้องประพฤติปฏิบัติตนตามเงื่อนไขที่กำหนดอย่างครบถ้วน
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวอีกว่า การพิจารณาเพื่อพักการลงโทษในทุกโครงการ กรมราชทัณฑ์มีระเบียบและหลักเกณฑ์ดำเนินการที่ชัดเจน นอกจากจะพิจารณาที่ความประพฤติ และการทำประโยชน์ต่อทางราชการเป็นสำคัญแล้ว ยังต้องพิจารณาถึงพฤติการณ์การกระทำความผิด ความรุนแรงของคดี และการกระทำความผิดที่ได้กระทำมาก่อนแล้วด้วย โดยจะต้องผ่านการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษ และได้รับการอนุมัติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ทั้งนี้ คู่คดีของนายสรยุทธทั้ง 2 รายที่เป็นประเด็นสงสัย กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการตามระเบียบเช่นเดียวกัน แต่เนื่องจากทั้ง 2 ราย มีกำหนดโทษที่แตกต่างกับนายสรยุทธ จึงส่งผลให้ระยะเวลาในการเข้าเกณฑ์พักการลงโทษในโครงการดังกล่าวไม่พร้อมกัน.-สำนักข่าวไทย