กรุงเทพฯ 22 ต.ค. – ราชทัณฑ์เผยญาติ 3 บอสหญิง เข้าเยี่ยมวันแรก ด้าน “บอสมิน” เริ่มปรับตัวได้ โต้ข่าว “บอสกันต์” พบแพทย์กลางดึก-กินไข่พะโล้ ไม่ได้ เฟกนิวส์ทั้งหมด
วันนี้เป็นวันแรกที่มีการเปิดให้เยี่ยมผู้ต้องหาคดีดิไอคอนกรุ๊ป เฉพาะผู้ต้องหาหญิงที่ถูกแยกไปควบคุมตัวภายในทัณฑสถานหญิงกลาง เนื่องจากฝั่งชายมี “บอสพอล” เข้ามาทีหลัง ทำให้ต้องกักโรคเพิ่มขึ้นอีก 1 วัน ยังไม่เปิดเข้าเยี่ยม มีรายงานข่าวว่าญาติของบอสมิน เข้ามาเยี่ยมในวันนี้ด้วย แต่ไม่มีใครเห็น ขณะที่รักษาการ ผอ.ทัณฑสถานหญิงกลาง เปิดเผยว่าวันนี้มีญาติ 3 คน ติดต่อเข้าเยี่ยมผู้ต้องขัง แต่ขอไม่บอกว่าเป็นใคร
บรรยากาศที่หน้าทัณฑสถานหญิงกลาง เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. มีญาติของผู้ต้องขังรายอื่น บอกผู้สื่อข่าวว่า พบแม่และแฟนหนุ่มของ “บอสมิน-พีชญา” รอเข้าเยี่ยมในรอบเวลา 10.00 น. ก่อนที่ต่อมาเวลา 09.40 น. ผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นหญิงลักษณะคล้ายญาติของ น.ส.นัฐปสรณ์ หรือบอสสวย คนเดียวกับที่เคยเข้ามาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางในวันที่มีการจับกุมตัวบอสสวยมาสอบปากคำ เดินออกมาจากทัณฑสถานหญิงกลาง โดยหญิงรายนี้สวมแมสก์ปิดบังใบหน้า เดินออกมาเป็นกลุ่ม 4-5 คน อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปสอบถามว่ามาเยี่ยมบอสสวยใช่หรือไม่ ทั้งกลุ่มไม่ตอบคำถาม หลบสายตาและรีบเดินออกไปทันที
ทีมข่าวจึงโทรศัพท์สอบถาม นายชูชาติ กันภัย ทนายความของบอสมิน แต่ทนายความไม่รับสาย ผู้สื่อข่าวจึงโทรศัพท์หา นายธนบดี เสประธานนท์ ทนายความบอสสวย เปิดเผยว่า ส่วนตัวยังไม่ได้พูดคุยกับญาติของบอสสวยว่าจะมีการเข้ามาเยี่ยมในวันนี้เลยหรือไม่ เพราะส่วนตัววันนี้ยังไม่ได้เข้าเยี่ยมบอสสวย แต่ทราบว่าสำนักงานของนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของบอสพอล มีการส่งทีมงานเข้ามาเยี่ยมแล้ว
ด้านนางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผอ.กองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กระบวนการหลังจากกักโรคครบ 5 วัน จะมีการนำตัวผู้ต้องขังทั้งหมดย้ายไปอยู่ที่แดนระหว่างพิจารณาคดี สุขภาพของผู้ต้องขังหญิงในคดีนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง มีเพียงบางคนที่ต้องพบแพทย์ด้วยอาการเล็กน้อย เช่น ตาแห้ง มีไข้
ส่วนของบอสมิน ไม่มีการร้องขออะไรเป็นพิเศษ เรื่องความเครียดสามารถปรับตัวได้ดีขึ้น แต่ไม่ถึงกับปกติทั้งหมด เพราะการเข้ามาอยู่ตรงนี้ต้องใช้เวลาปรับตัว โดยระหว่างนี้ทนายความสามารถเข้ามาเยี่ยมได้ทุกวันและไม่จำกัดเวลา ส่วนทางญาติจะสามารถเข้าเยี่ยมได้วันละ 1 ครั้ง ๆ ละ 15-20 นาที หรือจองผ่านทางออนไลน์ผ่านทางวีดีโอ Conference ได้เดือนละ 1 ครั้ง โดยวันนี้ก็มีญาติทั้งหมด 3 คน ติดต่อเข้ามาเยี่ยมผู้ต้องขัง ซึ่งไม่แจ้งว่าเป็นใครเพราะจะกระทบกับสิทธิ์ของผู้ต้องขัง โดยคนที่ติดต่อเข้ามาเยี่ยมเป็นคนใกล้ชิด
สำหรับการดูแลผู้ต้องหาระหว่างพิจารณาคดี นางกนกวรรณ เปิดเผยว่า จะมีความแตกต่างกับการดูแลผู้ต้องขังเด็ดขาด ทั้งเรื่องทางกายภาพคือจะมีการแยกกันอยู่ ไม่ปะปนกัน และผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีผู้หญิงสามารถไว้ผมยาวได้ เพียงแต่ให้มัดรวบเรียบร้อย หรือหากร้อนและอยากตัดผมก็สามารถตัดได้เช่นกัน นอกจากนี้ มีสิทธิ์ในการพบทนายความเพื่อเตรียมต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ ซึ่งตลอด 5 วันที่ผ่านมา ยังไม่มีหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องติดต่อเข้ามาสอบปากคำผู้ต้องหาในคดีนี้
ส่วนผู้ต้องขังชาย เท่าที่มีการประสานกับทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ทราบว่าคนที่มีการป่วย เช่น บอสวิน ที่เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว จะได้รับการตรวจและรับรักษาจากแพทย์อย่างต่อเนื่อง ส่วนจะต้องย้ายไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์หรือไม่ ณ เวลานี้ยังตอบไม่ได้ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ โดยส่วนของบอสชายทั้งหมดนั้น เนื่องจากมีบอสพอลที่เข้ามาทีหลัง ทำให้มีทั้งหมดต้องกักโรคเพิ่มอีก 1 วัน ตามกำหนดแล้วจะสามารถเข้าเยี่ยมได้ในวันพรุ่งนี้ แต่เนื่องพรุ่งนี้เป็นวันหยุดราชการ จึงจะยังเยี่ยมไม่ได้ จะเริ่มเข้าเยี่ยมวันแรกได้ในวันที่ 24 ตุลาคม
ในขณะที่นายปราโมทย์ ทองศรี ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านทัณฑวิทยา รักษาราชการแทน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่า นายกันต์ กันตถาวร หรือ ”บอสกันต์“ มีอาการน่าเป็นห่วงจนต้องขอพบแพทย์กลางดึก ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยนายกันต์ สุขภาพร่างกายไม่น่าเป็นห่วง อยู่ในระหว่างการปรับตัว และไม่มีการพบแพทย์กลางดึกอย่างที่เป็นกระแสข่าว ส่วนกระแสข่าวก่อนหน้านี้ที่บอกว่านายกันต์ไม่สามารถกินอาหารในเรือนจำได้ โดยกินไข่พะโล้ได้เพียงคำเดียวและคายออกมานั้น ก็ไม่เป็นความจริงเช่นกัน. -420- สำนักข่าวไทย