เชียงใหม่ 16 ธ.ค. – ในที่สุดศาลอนุมัติหมายจับสามีของพยาบาลที่เชียงใหม่ ซึ่งถูกฆ่าแล้วเผาอย่างเหี้ยมโหด ในข้อหาร่วมกันฆ่าและซ่อนเร้นอำพรางศพ แม้จะยังให้การปฏิเสธ หลังพบหลักฐานในสมุดบันทึกผู้ตายที่เขียนถึงความขัดแย้งในชีวิตคู่และหนี้สินเงินทอง และในทางสืบสวนยังพบวางแผนไว้อย่างแยบยล กลายเป็นคดีพิศวาสฆาตกรรมอีกรายหนึ่ง
นายธนพนธ์ ปารีเสน วัย 43ปี สามีนางสาวเจน วัย 50 ปี พยาบาลโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ที่ถูกฆ่าแล้วเผาอย่างเหี้ยมโหดกลางสวนลำไย อ.ดอยหล่อ เมื่อสัปดาห์ก่อน มีสีหน้าเรียบเฉย แม้จะตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าภรรยาตัวเองและถูกจับกุม หลังศาลอนุมัติหมายจับข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันลอบฝังซ่อนเร้นหรือทำลายศพ แต่ยังให้การปฏิเสธจนถึงนาทีสุดท้ายก่อนถูกนำตัวไปฝากขังที่ศาลเมื่อช่วงบ่ายวันนี้
แม้นายดอน ผู้ต้องหาอีกคนที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้จะให้การซัดทอดกล่าวหานายธนพนธ์ เป็นผู้บงการจ้างในราคา 100,000 บาท และยังเป็นคนลงมือฆ่าภรรยาด้วยตัวเอง แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จนได้หลักฐานจากสมุดบันทึกที่เก็บไว้ในล็อกเกอร์ที่ทำงานตามที่ผู้ตายสั่งเสียญาติไว้ เขียนเรื่องราวความรักความขัดแย้งกับสามีที่จดทะเบียนสมรสและหย่ากันมา 2 ครั้ง จนจดทะเบียนเป็นครั้งที่ 3 เมื่อต้นปีจนเสียชีวิต จึงชัดเจนขึ้น สอดคล้องกับคำบอกเล่าของญาติที่ยืนยันผู้ตายถูกข่มขู่หลายครั้ง หลังมีปัญหากันมาหลายปี ทั้งเรื่องผู้หญิงและเรื่องเงินทอง เพราะผู้ตายนอกจากเป็นพยาบาลแล้วยังทำธุรกิจขายตรงผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามจนมีเงินหลักล้าน จึงซื้อทั้งรถ ให้เงินและให้ยืม
จากการสืบสวนพบว่า การก่อเหตุมีการวางแผนไว้อย่างดี ผู้ตายหายไปตั้งแต่ค่ำวันที่ 9 ญาติตามหาผู้ตายในวันที่ 10 วันเดียวกับที่นายธนพนธ์อ้างว่าโทรไปสอบถามถึงภรรยาที่โรงพยาบาลแต่ไม่พบ เช้าวันที่ 11 นายดอนที่ถูกจับกุมมาหาที่บ้าน ธนพนธ์อ้างว่าได้แอบถ่ายคลิปตอนนายดอนรับสารภาพเป็นผู้ฆ่าภรรยาเพราะโกรธแค้นที่ถูกคนดุด่า และเนื้อหาการพูดคุยความยาวเกือบ 10 นาที ส่วนใหญ่ระบุธนพนธ์ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งเขาใช้เป็นหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์
คดีนี้เป็นอีกคดีที่มีคนใกล้ชิดเข้าไปพัวพัน พยานหลักฐานทั้งหมดจะนำขึ้นสู่การพิจารณาของศาล เพื่อพิสูจน์และต่อสู้กันตามกระบวนการยุติธรรม ตามกฎหมายโทษสูงสุดในคดีนี้คือประหารชีวิต. – สำนักข่าวไทย