ย่างกุ้ง 9 มี.ค. –ผู้ประท้วงวัยหนุ่มสาวหลายร้อยคนที่ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารในเมียนมา ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ความมั่นคงปิดกั้นไว้ภายในเขตหนึ่งในนครย่างกุ้งตั้งแต่เมื่อวานนี้ สามารถออกจากพื้นที่เขตดังกล่าวได้แล้ว หลังจากชาติตะวันตกและสหประชาชาติเรียกร้องให้กองทัพเปิดทางให้ผู้ประท้วงเหล่านี้
ประชาชนหลายพันคนเมินคำสั่งห้ามออกนอกบ้าน หรือ เคอร์ฟิว ในช่วงกลางคืน และออกไปชุมนุมตามท้องถนนเพื่อสนุบสนุนกลุ่มคนหนุ่มสาวในเขตซานชวง ซึ่งมีผู้ประท้วงจัดการชุมนุมต่อต้านการยึดอำนาจทุกวัน ในวันจันทร์ ตำรวจยิงปืนและระเบิดแสงที่เมืองซานชวง พร้อมประกาศว่า จะเข้าตรวจตามบ้านทุกบ้านเพื่อหาตัวผู้ที่ไม่ได้อยู่อาศัยในเมืองแห่งนี้ และจะจับกุมผู้ที่ให้ความช่วยเหลือในการหลบซ่อนตัวของบุคคลภายนอกเขตนี้ อย่างไรก็ตาม นักเคลื่อนไหววัยหนุ่มสาวคนหนึ่งกล่าวว่า เธอซ่อนตัวอยู่ในอาคารแห่งหนึ่งพร้อมด้วยเพื่อน ๆ อีก ราว 15-20 คน แต่ขณะนี้สามารถเดินทางกลับบ้านได้แล้ว ส่วนผู้ประท้วงอีกรายโพสต์ข้อความทางสื่อสังคมออนไลน์ว่า พวกขาสามารถออกจากพื้นที่ดังกล่าวได้ตั้งแต่เมื่อตอน 5.00 น. เข้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากที่กองกำลังความมั่นคงถอนตัวออกไป นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวก่อนหน้านี้เรีบกร้องให้ทุกฝ่ายมีความอดกลั้นอย่างที่สุดและให้ปล่อยตัวผู้ประท้วงทั้งหมดโดยไม่มีความรุนแรงหรือไม่มีการจับกุมผู้ใดอีก ในขณะที่สถานทูตสหรัฐและอังกฤษในเมียนมาก็แสดงท่าทีแบบเดียวกัน กลุ่มปกป้องสิทธิพลเมืองกล่าวว่า มีผู้ที่ถูกจับกุมที่เมืองซานชวงประมาณ 50 คน หลังจากตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านเรือนประชาชน ในขณะที่โทรทัศน์เอ็มอาร์ทีวี ของทางการเมียนมากล่าวว่า ความอดทนของรัฐบาลกำลังจะหมดลงและกำลังพยายามทำให้เกิดการเสียชีวิตน้อยที่สุดในการหยุดยั้งการจลาจล พร้อมกับระบุว่า ประชาชนต้องการเสถียรภาพและกำลังเรียกร้องให้ใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพในการจัดการกับการจลาจล.-สำนักข่าวไทย