กรุงเทพฯ 5 มี.ค.-กรมเจ้าท่า ลงพื้นที่ตรวจติดตามโครงการต่อเรือไฟฟ้าต้นแบบตลาดน้ำดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ส่งเสริมการท่องเที่ยวสีเขียววิถีใหม่ ปลอดภัยไร้มลพิษอย่างยั่งยืน นำร่องเปิดให้บริการในตลาดน้ำดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี
นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) ลงพื้นที่จังหวัดราชบุรี ตรวจติดตามโครงการต่อเรือไฟฟ้าต้นแบบ เรือโดยสารหางยาวที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า พร้อมทดลองการใช้งานจริง โดย อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 3 สำนักมาตรฐานเรือ และสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขานครปฐม ร่วมกับภาคเอกชนที่มีศักยภาพด้านการต่อเรือขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าได้แก่ บริษัท สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น จำกัด และชุมชนในท้องถิ่น ร่วมกันดำเนินการต่อเรือโดยสารหางยาวที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เพื่อใช้งานในคลองดำเนินสะดวก ให้เป็นเรือต้นแบบที่ลดมลพิษและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ให้คนในชุมชนได้นำไปเป็นทางเลือกในการต่อเรือใหม่ หรือเปลี่ยนจากเครื่องยนต์ดีเซลเก่ามาใช้มอเตอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าแทน
นอกจากนี้กรมเจ้าท่า ได้จัดทำร่างข้อบังคับกรมเจ้าท่าว่าด้วยการตรวจเรือ โดยสารที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า “ให้เหมาะสมกับ เรือหางยาว ที่จะขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า” ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการส่งเข้ากระทรวงคมนาคม เพื่อพิจารณา โดยนำร่องการพัฒนาเรือหางยาวท่องเที่ยวให้เป็นเรือไฟฟ้าต้นแบบที่ใช้งานได้จริงและไม่เกิดเสียง หรือมลพิษทางอากาศ ลดPM 2.5 โดยโครงการดังกล่าวมีเรือจำนวน 3 ลำ เป็นเรือไม้ 2 ลำ และเรือจากภาคเอกชน ประกอบขึ้นด้วยอลูมิเนียม 1 ลำ ซึ่งชาร์จ 1 ครั้ง ใช้เวลา 4 ชั่วโมง วิ่งได้ ประมาณ 10 กิโลเมตร ความเร็วสูงสุด ประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถชาร์จไฟที่บ้านได้ ทั้งนี้ อธิบดีกรมเจ้าท่า ได้มอบนโยบาย โดยให้แนะนำผู้ประกอบการและชุมชน เปลี่ยนมาติดตั้งเครื่องยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ให้เกิดขึ้น 8-10 ลำ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ คาดว่าภายหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่เป็นจำนวนมาก อีกทั้ง เป็นการท่องเที่ยวสีเขียววิถีใหม่ปลอดภัยไร้มลพิษอย่างยั่งยืน
อธิบดีกรมเจ้าท่า ยังได้เดินทางไปยังสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขากาญจนบุรี เพื่อตรวจสอบ และจดทะเบียนแพ โดยมีจำนวนแพจอด ทั้งหมดในจังหวัดกาญจนบุรีประมาณ 1,200 หลัง ดำเนินการออกใบอนุญาตแล้ว 651 หลัง ในส่วนของแพลากจูง มีจำนวน 917 หลัง ดำเนินการยื่นเอกสารแล้ว 109 หลัง พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ ออกตรวจแพทุกลำ ก่อนถึงฤดูกาลท่องเที่ยว ให้ได้มาตรฐานที่ถูกต้องตามกฎข้อบังคับของกรมเจ้าท่า และมีสภาพพร้อมต่อการใช้งาน หากพบแพที่ไม่ได้มาตรฐาน ให้รีบดำเนินการแก้ไข และสั่งห้ามใช้แพโดยเด็ดขาด และสั่งการให้ดำเนินการติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณแพ เพื่อรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่า ภายหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง จะส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย