รัฐสภา 20 ก.พ.- นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงกรณี่ที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เรื่องระหว่าง อสมท กับ กสทช. และบริษัทเพลย์เวิร์ค
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงถึงกรณี่ที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในเรื่องของ อสมท กับ กสทช. และบริษัทเพลย์เวิร์คว่า ตัวละครมี 3 ส่วน เพลย์เวิร์คก็เป็นบริษัทเอกชน ในส่วนของ กสทช. เป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 60 ส่วน อสมท ก็เป็นรัฐวิสาหกิจมหาชน อยู่ในกำกับของสำนักนายกรัฐมนตรี ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ตนกำกับดูแล ซึ่งก็มีสำนักงานคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลังกำกับดูแลอีกส่วนหนึ่งเพราะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ดูแล อสมท ในส่วนของสำนักนายกรัฐมนตรีก็เป็นเพียงแค่การกำกับดูแล ไม่ได้เข้าไปลงลึกอะไร เพียงแค่กำกับให้ดำเนินไปตามกรอบของกระบวนการตามกฎหมาย
ในส่วนที่มีประเด็นปัญหากันอยู่ ก็คือการที่ กสทช. ได้เรียกคืนคลื่นความถี่ ในเรื่องการเรียกคืนคลื่นความถี่นั้นเป็นอำนาจโดยอิสระของ กสทช. ตามมาตรา 60 ซึ่งก็ได้ใช้อำนาจตามบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ที่ให้อำนาจ กสทช.สามารถเรียกคืนคลื่นความถี่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์หรือนำไปใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น แต่ต้องทดแทนชดใช้หรือจ่ายค่าตอบแทนให้กับผู้ที่ถูกเรียกคืนคลื่นความถี่ ซึ่งก็คือ อสมท เพราะฉะนั้นรัฐบาลหรือท่านนายกรัฐมนตรีไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจดังกล่าว หลักเกณฑ์การทดแทน ชดใช้ หรือจ่ายค่าตอบแทนที่กำหนดโดย กสทช. ก็เป็นการใช้อำนาจโดยชอบของ กสทช.เองทั้งหมด การแต่งตั้งอนุกรรมการต่างๆ เป็นการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่ กสทช.กำหนดขึ้น ซึ่งองค์ประกอบก็เป็นไปตามประกาศ หลักเกณฑ์เรียกคืนคลื่นความถี่ทุกประการ
“ซึ่งตรงนี้ก็เป็นเรื่องของหน่วยงานขององค์กรอิสระ ซึ่งจะถูกจะผิด หรือจะเป็นอย่างไรนั้น ก็คงเป็นเรื่องกรอบอำนาจหน้าที่ของ กสทช. ซึ่งทางคณะรัฐบาล หรือท่านนายกฯ ไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือก้าวก่ายได้เลย นี่คือสิ่งที่อยากกราบเรียนชี้แจงเป็นเบื้องต้นที่ผู้อภิปรายได้พาดพิงถึงท่านนายกรัฐมนตรีว่าสามารถที่จะไปกำกับหรือดูแลหรือสั่งการได้ ก็คงไม่ได้เป็นอย่างนั้น” นายอนุชากล่าว
นายอนุชา ยังกล่าวว่าในปัจจุบันนี้ปัญหาที่เกิดขึ้น ได้มีการร้องเรียนของหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นสหภาพหรือท่านอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในสมัยหนึ่ง ซึ่งสหภาพ อสมท ที่เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับ อสมท ในการที่กำหนดเรื่องค่าชดเชยหรือค่าเสียหาย หรือในการแบ่งผลประโยชน์ระหว่าง อสมท กับบริษัทเพลย์เวริ์ค ซึ่งตรงนี้ยังเป็นปัญหาอยู่ ส่วนตนหรือสำนักนายกรัฐมนตรี หรือท่านนายกรัฐมนตรี ก็ไม่สามารถที่จะไปสรุปหรือไปกำกับให้เป็นในแบบใดแบบหนึ่งได้ อย่างที่ผู้อภิปรายในสภา ไม่สามารถที่จะไปก้าวก่ายการทำงาน หรือการปฏิบัติหน้าที่ หรือการมีคณะกรรมการ หรือไม่ว่าจะเป็นผู้มีอำนาจในแต่ละหน่วยงาน ที่เขาจะตกลงกัน หรือเขาจะทำกันอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งคือเราเพียงแค่ว่า อย่างไรก็แล้วแต่ทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย
“เรามีอำนาจเพียงแค่เข้าไปกำกับให้หน่วยงานทำให้เป็นตามกระบวนการให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่เขาจะทำด้วยวิธีอย่างไร ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เราก็ต้องไปว่ากันอีกชั้นหนึ่ง ในส่วนของเราที่กำกับดูแลนั้นได้มีการส่งหนังสือเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของ อสมท ให้สำนักงานคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง ไปพิจารณาถึงความถูกต้อง หรือกรอบการทำงานของ อสมท ที่ได้พิจารณาเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ในส่วนของ กสทช. เป็นองค์กรอิสระ ในส่วนของสำนักนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรี หรือนายกรัฐมนตรี ไม่สามารถที่จะดำเนินการอะไรได้อยู่แล้ว ก็ส่งเรื่องร้องเรียนที่มีขึ้นไปที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2563 ทั้ง 2 หน่วยงาน ซึ่งตรงนี้เราก็ได้ดำเนินการตามกรอบอำนาจหน้าที่ ตามสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นตามสิ่งที่มีผู้คนที่ร้องเรียนขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นสหภาพแรงงานก็ดี หรือไม่ว่าจะเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก็ดี ตรงนี้ให้สบายใจได้ว่านายกรัฐมนตรีและสำนักนายกรัฐมนตรีได้ดำเนินการตามกรอบอำนาจหน้าที่ด้วยความเรียบร้อย ตามขั้นตอนในกรอบของกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย