นายกฯ แจงเสียงแข็ง 3 ป.ไม่มีรับเงิน

รัฐสภา 17 ก.พ.- นายกฯ แจงเสียงแข็ง 3 ป.ไม่มีรับเงิน ท้าคนกล่าวหานำหลักฐานมาสู้คดีพิสูจน์กัน ยันไม่เคยรวบอำนาจแก้ปัญหาโควิด-19 แจงทำงานแบบบูรณาการ ขออย่าบิดเบือนร่วมมือทำงานไม่แบ่งแยกฝ่ายค้าน-รัฐบาล


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงตอบโต้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ที่กล่าวหาว่า นายกรัฐมนตรีรวบอำนาจ แทรกแซงการทำงานของหน่วยงาน ในการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ว่า ผู้ที่พาดพิงอาจไม่เข้าใจโครงสร้างการทำงาน เพราะโควิด-19 เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินส่งผลกระทบในหลายมิติ หากแก้ปัญหาล่าช้าก็ทำให้สถานการณ์แย่ลง และเกิดความสับสนได้ ซึ่งการทำงานมีความเกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง หลายหน่วยงานที่มีกฎหมายและระเบียบต่างกันดังนั้นต้องทำให้ทุกส่วนทำงานบูรณาการร่วมกันไปในทิศทางเดียวกันตามสถานการณ์แต่ละพื้นที่ ทั้งนี้คงไม่มีใครอยากทำให้ทุกคนลำบาก เศรษฐกิจไม่ดี ย้ำว่าการตัดสินใจทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน มีการประชุมของหน่วยงานที่รับผิดชอบ อาจไม่ถูกใจ ไม่ตรงใจ แต่ขอให้เข้าใจว่าทุกคนตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งตนคงไม่สามารถบังคับใครให้เห็นชอบได้เพราะนี่คือประชาธิปไตย ใครจะด่า ใครจะว่า ดูถูกเหยียดหยามตนก็นั่งฟัง และทน ซึ่งไม่ควรจะเกิดขึ้นในสภาด้วยซ้ำ ขออย่ามาหาว่าตนเอาแต่อำนาจ หากตนใช้แต่อำนาจคงไม่ต้องมานั่งแบบนี้ สิ่งสำคัญคือความรักความสามัคคี เข้าใจสถานการณ์โดยไม่บิดเบือนบางอย่างต้องร่วมกันได้ แม้จะเป็นฝ่ายค้าน-ฝ่ายรัฐบาลก็ตาม

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาแม้ไทยจะเคยเจอกับโรคระบาด เช่น เมอร์ส ซาร์ส แต่การแก้ปัญก็ต้องทำคนละอย่างกันกับโควิด-19 ในอดีตการแก้ปัญหาโรคระบาดจากสัตว์สู่คน มีการฆ่าไก่ 4-5 ล้านตัว รัฐบาลไหนทำก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ครั้งนี้เกิดกับคนจะฆ่าแบบนั้นไม่ได้ ดังนั้นขอให้ทุกคนเชื้อมั่นการทำงานทุกฝ่าย โดยบุคลากรทางการแพทย์ ย้ำว่าการทำงานนั้นทำในรูปแบบคณะกรรมการ เหมือน ครม. ไม่ได้ผูกขาดอำนาจสั่งการแต่เพียงผู้เดียวในฐานะ ผอ.ศบค. และหลายประเทศก็ใช้รูปแบบการทำงานแบบนี้


นายกรัฐมนตรี ยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่นถึงข้อกล่าวหามีการปล่อยให้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย และเรียกรับผลประโยชน์ “ผมยืนยัน 3ป.ไม่มีรับเงิน เดี๋ยวไปพิสูจน์มา ไปหาประจักษ์พยานมาแล้วไปสู้กันในคดี ในสภาท่านพูดได้ ผมก็พูดได้เหมือนกัน และรู้ว่าต้องการให้ตนโมโห ยากครับยาก บอกไว้ก่อน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องเงินเยียวยารัฐบาลก็อยากดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะเป็นเงินของทุกคน ขออย่าพูดบิดเบือนว่ารัฐบาลไม่ให้ความสนใจ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์

มือยิง 3 ศพ ขอโทษ-สำนึกผิด อ้างบันดาลโทสะ

ตำรวจแถลงข่าวจับกุม “สามารถ” ผู้ต้องหายิง 3 ศพ ในพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู หลังจากติดต่อมอบตัว พร้อมยอมรับผิด ขอโทษญาติผู้เสียชีวิต อ้างบันดาลโทสะจึงก่อเหตุ และไม่มีอาการคลั่งตามที่เป็นข่าว