15 ก.ย. – “พิชัย” เสียดาย “โรม” น่าจะทำการบ้านก่อนอภิปราย ชี้ อย่าคิดได้แค่วาทกรรมสาดโคลน พาดพิงบุคคลอื่นเสียหาย แนะ วันนี้ เป็น สส. คนรุ่นใหม่ ต้องไม่กลายพันธุ์เป็นคนรุ่นเก่า
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า รู้สึกแปลกใจในการอภิปรายของนายรังสิมันต์ โรม ที่ต่ำกว่าคุณภาพมากกว่าหลายครั้งที่ผ่านมา ทั้งที่ตนเองเพิ่งชื่นชมนายรังสิมันต์ในสภา เทียบเคียงกับ นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล และนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ที่อภิปรายมีข้อสังเกตดีเยี่ยม เปรียบเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำพรรคแทนเทียบชั้น นายพิธา นายธนาธร นายปิยะบุตร และช่อ แต่กลับต้องผิดหวังและไม่คิดว่านายรังสิมันต์ ที่เป็นตัวแทน สส. คนรุ่นใหม่ จะกลายพันธุ์เป็น สส. รุ่นเก่า ใช้เพียงการสร้างวาทกรรมสาดโคลน และพาดพิงให้คนอื่นเสียหายเท่านั้น
นายพิชัย กล่าวว่า ข้อวิจารณ์เรื่องยาเสพติดและเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่ามีนายใหญ่ได้เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นการกล่าวหาแบบไม่มีหลักฐาน พาดพิงบุคคลอื่นให้เสียหาย เพราะการลงทุนในเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ใช้เงินมหาศาล มุ่งหวังที่จะเอาเศรษฐกิจใต้ดินขึ้นมาบนดิน ในกระบวนการต่างๆ ต้องอาศัยการลงทุนของภาคเอกชน และจำเป็นต้องดึงดูดผู้สนใจมาลงทุน ไม่มีส่วนใดเกี่ยวข้องกับนายใหญ่ที่ท่านพูดถึง ดังนั้น จึงอย่าพูดแบบไร้หลักฐาน เพราะจะกระทบต่อความเชื่อมั่นการลงทุน
อีกประเด็นคือการกล่าวหาว่า นายกฯ ถูกสั่งจากแสงจันทร์ ถือเป็นวาทกรรมที่ไร้วุฒิภาวะ วันนี้ควรหยุดพูดกันได้แล้วว่าจะมีใครมาสั่งนายกได้ วันนี้ท่านนายกถือเป็นเบอร์ 1 ของการบริหารราชการแผ่นดินที่ถูกต้องตามกฎหมาย และท่านก็ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีจากทุกพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล ไม่มีใครจะสั่งนายกได้ ในทางกลับกัน ถ้าผมพูดบ้างว่า เวลาท่านรังสิมันตร์ อภิปราย มีใครสั่งท่านได้บ้างให้พูดเรื่องนั้น เรื่องนี้ จะว่าอย่างไร
นายพิชัย กล่าวว่า ท่านรังสิมันต์ได้มีโอกาส เป็นประธาน กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ ก็น่าจะเป็นเกียรติ แต่ท่านยังคงไม่มีประสบการณ์ในการบริหาร ท่านดูจะตื่นเต้นกับข้อมูลหน่วยงานของต่างประเทศ จนลืมไปว่าการบริหารจัดการอาชญากรรมข้ามชาติมีมากกว่าตัวเลข เพราะตั้งแต่ปี 2545 ที่ยาเสพติดลดลงเพราะว่าเราจริงจังกับการจัดการผู้ค้ายาเสพติด ในปี 2544 เราจับเฮโรอีนเกือบ 100 ตัน ทางทะเล โดยกองทัพเรือ เพราะการทำงานร่วมกันเป็นเวลานาน จนรัฐบาลได้รับการยอมรับจากนานาชาติ หลังจากปฏิวัติในปี 2549 เกิดอะไรขึ้นท่านอาจจะเด็กไป เราขาดการสนับสนุนข้อมูลจากต่างประเทศ เพราะการยอมรับในรัฐบาลของเราต่ำลง ท่าน สส. คงไม่ทราบว่า ข่าวกรองและข้อมูลที่ได้รับทุกครั้ง จะต้องใช้เวลาประมวลผลและเตรียมการ ในการจับกุมหรือหยุดยั้งหลายปี
“หากท่านมีประสบการณ์ ท่านจะรู้ว่าการกล่าวหารัฐบาลโดยไม่มีข้อมูลและไปโยงใยจับแพะชนแกะกับนโยบายช่วยเหลือประชาชนอื่นๆ เช่น การจัดตั้งเอนเทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ที่ออกแบบมาเพื่อดึงดูดการลงทุนต่างชาติ ดึงดูดนักท่องเที่ยวและลดอาชญากรรมท้องถิ่นที่เกิดจากการพนัน ทำให้มีเงินมาให้เป็น ทุนการศึกษาเด็ก เพื่อสร้างโอกาสนั้น ไม่ได้เป็นช่วยประเทศ แต่เป็นการทำลายความเชื่อมั่นในการลงทุน ทำให้ประชาชนที่ฟังอยู่ทางบ้าน เห็นว่าท่าน สส.เก่งในการสาดโคลน มากกว่าการอภิปรายด้วยข้อเท็จจริง” นายพิชัยกล่าว
นายพิชัยกล่าวว่า ต่อประเด็นบัญชีม้า ท่าน สส. คงจะไปสนใจแต่ปริมาณบัญชีม้า 500 บัญชีม้าที่ท่านเฝ้าจนไม่ได้ดูเลยว่า วันนี้ กสทช. ได้สั่งปิดซิมม้ากว่า 2 แสนซิม และอีกกว่า 15,000 บัญชี ที่ ธปท. สั่งระงับการใช้ ที่ท่านไม่ทราบ คงเป็นเรื่องอาชญวิทยาและกระบวนการยุติธรรมว่า กระบวนการที่จะหยุดอาชญากรรมต่างๆ ได้ ต้องพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมควบคู่กันไป ท่านเคยได้สัมภาษณ์ ผู้ต้องหาคดีบัญชีม้าไหมครับ เวลาเขาอุ้มลูกมา ร้องไห้ บอกไม่มีอันจะกิน เลยต้องไปรับเงินค่าจ้าง มันเกิดจากอะไร หลายปีมานี้เราขาดอะไร สภาพเศรษฐกิจมันเป็นอย่างไร ขอย้ำว่า รัฐบาลเรารู้โลกแห่งความเป็นจริง บริหารงานจากข้อเท็จจริง ประสบการณ์จริง ไม่ใช่ไปตื่นเต้นกับข้อมูลใหม่ แล้วเอามาเปิดให้โลกรู้ โดยไม่รู้ถึงผลกระทบของมัน ไม่รู้ถึงความลึกซึ้งของปัญหา
“ขอเรียนย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลนี้ไม่มีนายกม้าแบบที่มีการสาดโคลนขึ้นมาโดย สส.คนรุ่นใหม่ มีแต่นายกรัฐมนตรีที่ถูกต้องตามกฎหมาย บริหารประเทศจริง นั่งประชุม ครม. อยู่หัวโต๊ะด้วยตัวเองจริง พร้อมทั้งได้รับการยอมรับจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากทุกพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลจริง ข้อเท็จจริงตรงนี้ ขอฝากให้ สส.รังสิมันต์ได้ทบทวน เพื่อเตรียมการอภิปรายในหนต่อไปให้ดีเหมือนที่เคยปฏิบัติมา” นายพิชัยกล่าว .319 -สำนักข่าวไทย