ประชุมสภาฯ วาระ 2-3 วันแรก พุ่งเป้าอภิปรายงบกลาง

รัฐสภา 3 ก.ย. – การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 วาระที่ 2 และ 3 วันแรก กรรมาธิการจากฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยกับการตัดงบหน่วยงานรัฐวิสาหกิจมาไว้ในงบกลางใช้โครงการดิจิทัลวอลเล็ต เพราะมองว่ายังไม่ชัดเจน ขณะที่รัฐมนตรีบอกหลังแถลงนโยบายแล้ว จะมีรายละเอียดที่ชัดเจน


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (3 ก.ย.) เป็นการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 วาระที่ 2 และ 3 ที่กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะรองประธานกรรมาธิการฯ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 กล่าวว่า กรรมาธิการฯ ยังคงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ไว้ที่ 3,752,700 ล้านบาท แต่ยังมีการเปลี่ยนแปลงงบประมาณในส่วนที่หมดความจำเป็น รวมจำนวน 35,000 ล้านบาท จากรัฐวิสาหกิจ 5 แห่ง โดยนำไปเป็นงบกลางสำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้งบกลางสำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจจากเดิมที่คณะรัฐมนตรีเสนอมา 152,700 ล้านบาท รวมเป็น 187,700 ล้านบาท


การพิจารณาของกรรมาธิการฯ ได้ให้ความสำคัญกับภารกิจในการสนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ การแก้ปัญหาความเป็นอยู่ของประชาชน และทำให้เศรษฐกิจเติบโตและมีความเข้มแข็ง รองรับผลกระทบเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ในมาตรา 6 งบกลาง เป็นประเด็นที่กรรมาธิการเสียงข้างน้อยให้ความสนใจในการอภิปรายค่อนข้างมากและเสนอตัดลดงบกลางออก 152,700 ล้านบาท และบางคนเสนอให้ตัดออกหมด เนื่องจากงบประมาณส่วนหนึ่ง รัฐบาลนำมาจากการเบี้ยวหนี้ธนาคารของรัฐ 35,000 ล้านบาท มาใส่ในงบกลาง สำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจ โครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยให้นำกลับไปชำระหนี้ธนาคารรัฐตามเดิม เพราะเห็นว่าปัจจุบันยังไม่มีคณะรัฐมนตรี และยังไม่มีการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา จึงยังไม่มีความชัดเจนในรายละเอียดโครงการ
อย่างไรก็ตาม นายจุลพันธ์ ยืนยันว่าเป็นความจำเป็น และหลังจากรัฐบาลแถลงนโยบายแล้วจะมีรายละเอียดในโครงการดิจิตอลวอลเล็ตต่อไป

ในที่สุดที่ประชุมมีมติเสียงข้างมาก 265 ต่อ 154 เสียง ให้ความเห็นชอบในมาตรา 6 งบประมาณรายจ่ายงบกลางกว่า 842,000 ล้านบาท ทั้งนี้ พบว่าในการลงมติของ สส.พรรคพลังประชารัฐ ได้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มชัดเจน โดย สส.กลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค ลงมติให้ความเห็นชอบตามกรรมาธิการเสียงข้างมาก ขณะที่ สส.ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ลงมติไม่เห็นชอบ


ส่วน สส.พรรคประชาธิปัตย์ ส่วนใหญ่ลงมติให้ความเห็นชอบมาตรา 4 กรอบวงเงินงบประมาณ แต่เมื่อเข้าสู่การพิจารณางบกลางในมาตรา 6 กลับพบว่านายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อของพรรค ไม่ลงมติ

นอกจากนี้ สส.กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส ยังย้ายไปนั่งโซนพรรคเพื่อไทยในห้องประชุม โดยก่อนหน้านี้ได้เดินไปทักทายสมาชิกต่างพรรค ทั้งภูมิใจไทยและรวมไทยสร้างชาติ แต่ไม่ได้เดินไปฝั่งที่นั่ง สส.ของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งนายจุลพันธ์ ยังได้เดินมาทักพร้อมชี้ไปที่ป้ายชื่อพรรคเพื่อไทย ในทำนองหยอกล้อ ทำให้ สส.พรรคเพื่อไทย ที่นั่งอยู่บริเวณนั้นหัวเราะ

วันพรุ่งนี้จะเริ่มประชุมในเวลา 09.00-22.00 น. และวันที่ 5 ก.ย. เริ่มตั้งแต่ 09.00 น. คาดว่าจะได้ลงมติให้ความเห็นชอบร่างทั้งฉบับราว 21.00 น. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”