รัฐสภา 24 มี.ค.- “บิ๊กป้อม” ลุกอภิปรายครั้งแรก ซัดแรง “ประเทศไม่ใช่เวทีให้มือสมัครเล่นมาซ้อมมือ” ชี้มีพฤติการณ์ไม่อาจไว้วางใจให้บริหารประเทศ เหตุเศรษฐกิจล้มเหลว-เสี่ยงเสียดินแดนปม MOU44-กาสิโนจะนำชาติไปสู่ความหายนะ ลั่น เคยใช้ใจบันดาลแรง บริหารประเทศสำเร็จหลายอย่าง แนะ นายกฯ เห็นประโยชน์ประเทศมากกว่าครอบครัว-พวกพ้อง ขณะที่ นายกฯ ลุกขึ้นแจงสภาครั้งแรกย้อนกลับ คำพูด “ประวิตร” ทุกอย่างที่พูดมาไม่เป็นความจริง
เมื่อเวลา 09.06 น. พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ สส. บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ต่อจากนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทน ซึ่งในระหว่างที่พลเอกประวิตร กำลังแนะนำโต้ตอบประธานสภา นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นประท้วง ตามข้อบังคับข้อที่ 9 เพื่อความชัดเจนและเป็นบรรทัดฐานในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า ตนเป็น สส. ตั้งแต่ 7 สิงหาคมปีที่แล้ว เข้าประชุมทุกครั้งแต่ไม่เคยเจอพลเอกประวิตรเลยสักครั้ง จึงขอให้ประธานวินิจฉัยว่าพลเอกประวิตรเป็นผู้เหมาะสมที่จะทำการอภิปรายวันนี้หรือไม่ เพราะตั้งแต่ร่วมประชุมสภามายังไม่เคยเห็นพลเอกประวิตร มาร่วมประชุมเลยสักครั้ง
ทำให้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า เป็นคนละประเด็น เพราะการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีข้อบังคับเรื่องการมาประชุม ซึ่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะเป็นผู้พิจารณา แต่วันนี้มาตามข้อบังคับการขออภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 ในฐานะสมาชิกรัฐสภาจึงมีสิทธิ์ที่จะอภิปราย จึงขอให้นายก่อแก้วนั่งลง เพราะตนวินิจฉัยแล้วไม่ได้ผิดข้อบังคับ เพื่อเป็นการควบคุมให้การประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
จากนั้นพลเอกประวิตร ได้ขึ้นอภิปรายต่อทันทีจากนั้นพลเอกประวิตร อภิปรายต่อว่า ตนในฐานะหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้เข้าชื่อเสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้มีพฤติการณ์อันไม่อาจเป็นที่ไว้วางใจ ให้บริหารราชการแผ่นดินในฐานะนายกรัฐมนตรีได้ต่อไปอีก
พลเอกประวิตร กล่าวบทถึงการดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีล้มเหลว วันนี้ประชาชนแสนสาหัสเกิดปัญหาทุกข์ยากทุกหัวระแหง ปัญหาปากท้องไม่ได้รับการแก้ไขจากที่รัฐบาลได้ให้คำมั่นสัญญา พนักงานถูกเลิกจ้าง บริษัทห้างร้านปิดกิจการจำนวนมาก การแก้ไขปัญหาผิดที่ผิดทาง ประชาชนเกิดปัญหาหนี้สิน ทั้งในระบบและนอกระบบ นี่ครัวเรือนสูงขึ้นถึง 104 % ราคาข้าวโพดข้าวสารหมั่นสำปะหลังอ้อยปาล์มน้ำมัน พืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ตลาดหุ้นดำดิ่ง เศรษฐกิจไทยมืดหม่น แต่รัฐบาลกลับนิ่งเฉยไม่มีมาตรการใดๆมาแก้ปัญหาปากท้องให้กับประชาชน ซึ่งจริงๆตนพยายามเอาใจช่วยนายกรัฐมนตรีในการแก้ไขปัญหาประชาชนให้สำเร็จ เพราะเห็นว่านายกรัฐมนตรีเคยบริหารด้านเศรษฐกิจมาก่อน และงานธุรกิจมาก่อน ก็คงมีประสบการณ์ที่จะช่วยประเทศชาติได้บ้าง แต่ปรากฏว่านายกรัฐมนตรีไม่สามารถแก้ไขปัญหา เศรษฐกิจให้ดีขึ้นซ้ำยังถอยหลัง จนGDP ประเทศไทยรั้งท้ายในกลุ่มอาเซียน และที่สำคัญคือการตัดสินใจที่ผิดพลาดขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องการตัดงบประมาณนับแสนล้าน ที่ควรอัดฉีด แต่ในยุครัฐมนตรีกับนำเงินก้อนดังกล่าวไปแจกในโครงการเงิน ซึ่งธนาคารโลกและกองทุน IMF ได้มีการออกมาเตือนแล้ว ว่าการแจกเงินหมื่นนั้นไม่ได้ผล แต่ควรกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการต่างๆแทน ซึ่งหากนายกรัฐมนตรี ศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้านวันนี้คนไทยคงไม่ลำบากทุกข์ใจในเรื่องปากท้องอย่างแสนสาหัส ฉะนั้นท่านจะนำพาประเทศให้รอดพ้นปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร
ส่วนประเด็นที่ 2 พลเอกประวิตรกล่าวว่า ต้นห่วงประเทศชาติเป็นอย่างมากและไม่สบายใจต่อการดำเนินนโยบายต่างประเทศและความมั่นคง โดยเฉพาะเรื่อง MOU 44 ที่วันนี้นายกรัฐมนตรีนำพาประเทศชาติไปสู่ความเสี่ยงต่อการสูญเสียดินแดนทรัพยากรทางทะเลที่มีมูลค่ามหาศาล และที่น่าเศร้าใจ คือเรื่องลูกเรือประมงของไทย นายกรัฐมนตรี รับปากว่าจะนำกลับมาประเทศไทยแต่นี่ 4 เดือนแล้วก็ยังไม่ได้กลับ ฉะนั้นตนในฐานะที่ทำงานด้านความมั่นคงมาตลอดชีวิตและเป็นผู้บัญชาการทหารบกเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตนทราบดีว่างานด้านความมั่นคงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจ ซึ่งตนเห็นใจนายกรัฐมนตรีที่ต้องมาเป็นผู้ตัดสินใจ ในเรื่องความมั่นคงของชาติให้มีเสียงร้อง ทั้งนี้ประเทศชาติไม่ใช่เวที ที่จะมาให้มือสมัครเล่นมาซ้อมมือได้

ส่วนประเด็นที่ 3 การบริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรีโดยเฉพาะร่างกฎหมาย สถานประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรหรือ เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ที่รัฐบาลพยายามผลักดัน แต่มันมีช่อง ที่ทำให้เกิดการทุจริตเชิงนโยบายเพื่อประโยชน์ส่วนตน และพวกพ้อง ขอย้ำว่ากาสิโนจะนำชาติไปสู่ความหายนะ และอันตรายอย่างที่สุด ก็จะทำให้สังคมอ่อนแอ และเกิดธุรกิจสีเทา ติดตามมาอีกมาก ซึ่งทุกวันนี้การปฏิบัติละเลยเรื่องต่างๆส่งผลให้ประเทศไทยกลายเป็นแหล่งฟอกเงิน และธุรกิจสีเทา รวมไปถึงปัญหาอาชญากรรมรวมไปถึงมีปัญหาพนันออนไลน์มากอยู่แล้ว
พลเอกประวิตร ยังระบุอีกว่า อีกประเด็นที่สำคัญคือนายกรัฐมนตรีขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (4)(5) ที่ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ เพราะท่านทำพฤติกรรมอำพรางยื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม โดยเฉพาะในเรื่องการถือหุ้นอัลไพน์ ครั้งที่รู้ว่าเป็นที่ธรณีสงฆ์แต่ท่านไม่ควรแสวงหาผลประโยชน์ในทางที่ผิด นอกจากนั้นท่านยังปล่อยปละละเลยให้บุคคลในครอบครัว มากระทำให้เกิดผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่
พลเอกประวิตร ยังกล่าวอีกว่าการที่บุคคลในครอบครัวของนายกรัฐมนตรีเรียกแกนนำต่างๆไปพูดคุยในการจัดตั้งรัฐบาลในบ้านจันทร์ส่องหล้า และบุคคลในครอบครัวของนายกรัฐมนตรีทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลต่อไปในทางครอบงำหรือไม่ เรื่องนี้ขอให้ เป็นไปตามการตรวจสอบขององค์กรที่เกี่ยวข้อง ส่วนผลจะเป็นอย่างไรตนเชื่อว่าประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินท่านเอง
พลเอกประวิตรยังกล่าวในช่วงท้ายว่าสิ่งที่ตนกล่าวมาไม่ใช่เป็นการกล่าวหาแต่เป็นไปตามหลักฐานข้อเท็จจริงทุกประการ ซึ่งส.สของพรรคพลังประชารัฐทั้ง 4 คน จะนำเสนอในรายละเอียดต่อไป ตนต้องขอขอบคุณทุกคนและนายกรัฐมนตรี รวมไปถึงประชาชนทุกคนในสิ่งที่ตนพูด ตนเป็นคนพูดไม่ค่อยเก่ง อาจไม่กระฉับกระเฉงเท่าตอนเป็นหนุ่มๆ”
ซึ่งเรียกเสียงหัวเราะจากที่ประชุมสภารวมไปถึงนายกรัฐมนตรี และนายภูมิธรรมเวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทยด้วย
จากนั้นพลเอกประวิตร ยังกล่าวอีกว่า ตนใช้ใจบันดาลแรง ในการบริหารประเทศได้สำเร็จมาได้ ในหลายๆ ด้าน ส่วนนายกรัฐมนตรีที่เป็นคนหนุ่มสาวแข็งแรง ตนก็เชื่อว่านายกจะบริหารประเทศด้วยสติปัญญาและมีความอ่อนน้อม แต่หนักแน่นในหลักการ ยึดถือประโยชน์ประเทศชาติมากกว่าครอบครัวและพวกพ้อง ซึ่งจะทำให้ประชาชนชื่นชมและตอบรับท่านเอง
โดยหลังจากการอภิปรายเสร็จสิ้น ห้องประชุมได้ปรบมือให้กับพลเอกประวิตร จนประธานในที่ประชุมขณะนั้นถึงกับต้องกล่าวเบรกว่าไม่ต้องปรบมือครับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการอภิปรายของพลเอกประวิตร มีท่าทีที่เหนื่อย และมีการหยุดเว้นหายใจบางจังหวะ
ภายหลัง พลเอกประวิตร อภิปรายเสร็จ ในเวลา 09.19 น. นางสาวแพทองธารชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงครั้งแรก โดยระบุ เชื่อว่าหลังจากนี้จะมีสมาชิกฝ่ายค้านขึ้นมาอภิปรายในประเด็นต่างๆ ต่อจากนี้อีกหลายท่าน ตนจะพยายามตอบทุกหัวข้อจะได้มีความสบายใจเกิดขึ้น สำหรับสมาชิกหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ผู้อาวุโสตนได้ฟังท่านพูด และจับเวลาการอภิปรายจากนาฬิกาของตนเองได้ 10 นาที และอยากจะบอกว่า ”ที่ท่านสมาชิกอาวุโสพูดเมื่อสักครู่นี้ ไม่เป็นความจริงค่ะ ขอบคุณค่ะ” จากนั้นนายกรัฐมนตรีก็ได้นั่งลงทันทีไม่ได้มีการชี้แจงในประเด็นอื่นใดต่อ .-316 -สำนักข่าวไทย