กรุงเทพฯ 11 ก.พ. – หุ้น OR ไม่ผิดหวัง เปิดเทรด 26.50 บาท เหนือจอง 47.22% เป็นหุ้นสร้างประวัติศาสตร์รายย่อยจองสูงสุด รายย่อยได้จัดสรรเพิ่มเป็น 889 ล้านหุ้นจากเดิมจัดสรรไว้เพียง 595.70 ล้านหุ้น
บมจ. ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก(OR) เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “OR” ในวันนี้ (11 ก.พ.) ที่ 26.50 บาท บวก 47.22% จากราคา IPO ที่ 18.00 บาท
โออาร์ มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 116,100 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) 2,610 ล้านหุ้น ในราคาเสนอขายหุ้นละ 18 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนรวม 46,980 ล้านบาท (ไม่รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 208,980 ล้านบาท และคาดว่าจะได้รับการจัดเข้าไปรวมอยู่ในดัชนี SET50 และ SET100 ด้วยเกณฑ์ Fast-track ภายใน 3 วัน ทำการนับจากวันที่เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรก
ทั้งนี้ หุ้น OR ซึ่งเป็น IPO ที่สร้างประวัติศาสตร์หลายด้านการระดมทุนทั้งสิ้น 54 ,000 ล้านบาท นับเป็นการระดมงินทุนที่มีมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็น IPO บริษัทน้ำมันที่มีมูลค่าการระดมทุนสูงสุดในภูมิภาคเอเชีย นับตั้งแต่ปี 2550 และเป็น IPO ที่มีมูลค่าการระดมทุนสูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นับตั้งแต่ปี 2556
การจองซื้อหุ้นจากนักลงทุนรายย่อย ตามเจตนารมณ์ของกลุ่ม ปตท. และ OR ที่ต้องการกระจายหุ้น PO ในครั้งนี้ให้ประชาชนชาวไทยอย่างทั่วถึง โดยการเสนอขายหุ้น PO ในครั้งนี้ มีนักลงทุนรายย่อยให้ความสนใจเข้าร่วมจองซื้อมากกว่ 480,000 ราย จาก 5.3 แสนบัญชี มูลค่ารวมกว่า 35,000 ล้านบาท นับเป็นการจองซื้อของนักลงทุนรายย่อยจำนวนมากที่สุดและมูลค่าที่สูงที่สุดในประวัติการณ์โดยนับเป็นรายย่อยเปิดบัญชีใหม่ร้อยละ 30
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.และประธานบอร์ด OR กล่าวว่า ขอบคุณคนไทยที่สนใจจองซื้อหุ้น OR ร่วมสร้างประวัติศาสตร์มีผู้จองรายย่อยสูงสุด โดยหุ้นที่กระจายรายย่อยมีประมาณ 889 ล้านหุ้น โดยเดิมจัดสรรรายย่อยไว้เพียง 595.70 ล้านหุ้น ส่วนเพิ่มมาจากการคืนของ 4 กองทุนต่างชาติ 51 ล้านหุ้น และกรีนชูส์อีก 243 ล้านหุ้น จากหุ้นกรีนชูส์มีทั้งหมด 390 ล้านหุ้น โดยที่เหลือประมาณ 22 ล้านหุ้น จัดสรรแก่กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) อีกประมาณ 124 ล้านหุ้นจัดสรรแก่สำนักงานประกันสังคม. – สำนักข่าวไทย