กทม. 28 ม.ค.- ตำรวจกองปราบปราม เร่งสอบสวนผู้ต้องหาคดีทุจริตโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” หลังนำตัวมาจาก จ.ชัยภูมิ และภูเก็ต จำนวน 49 คน พร้อมตรวจสอบเส้นทางการเงิน อายัดแล้วกว่า 100 บัญชี
พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับเจ้าของโรงแรมและผู้ที่ใช้สิทธิเข้าข่ายทุจริตโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ที่ตำรวจควบคุมตัวมาจาก จ.ชัยภูมิ และภูเก็ต จำนวน 49 คน ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ ในประการที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยล่าสุดมีผู้ต้องหาบางคนยื่นประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนไปแล้ว ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือประมาณ 17 คน อยู่ระหว่างการสอบปากคำ และรอหลักทรัพย์เพื่อยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราว
ส่วนขั้นตอนจากนี้ ตำรวจจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน และเมื่อสำนวนแล้วเสร็จ จะนัดตัวผู้ต้องหาพร้อมสำนวนคดี เพื่อส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการ ตามขั้นตอน สำหรับแนวทางการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม ยอมรับว่า มีเป้าหมายที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เข้าตรวจค้นอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศที่พบการกระทำลักษณะคล้ายกันนี้ แต่ในชั้นสอบสวนยังไม่พบว่ามีส่วนเชื่อมโยงกับกลุ่มที่ทุจริตใน จ.ชัยภูมิ และภูเก็ต เพียงแต่มีแผนประทุษกรรมใกล้เคียงกัน เนื่องจากการกระทำผิดในลักษณะของการทุจริตแบบนี้ ลอกเลียนแบบกันได้ไม่ยาก
นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนยังตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มเครือข่ายผู้กระทำความผิด พร้อมอายัดบัญชีไปแล้วกว่า 100 บัญชี จากผู้กระทำผิดในจังหวัด
สำหรับคดีนี้ ตำรวจกองปราบปราม นำกำลังพร้อมหมายค้นเข้าตรวจสอบเป้าหมายผู้ประกอบการโรงแรมที่พักใน จ.ชัยภูมิ และภูเก็ต รวมกว่า 50 จุด พร้อมควบคุมตัวเจ้าของที่พักและผู้ร่วมกระทำผิดได้ จำนวน 50 คน ขณะเดียวกัน ยังพบข้อมูลผู้ที่เข้าข่ายจงใจร่วมใช้สิทธิในลักษณะทุจริตอีกกว่า 9,000 คนทั่วประเทศ และเตรียมเรียกตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมในแต่ละพื้นที่ และยังพบมีลักษณะการทุจริตคล้ายกันนี้อีกหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยวหลักและจังหวัดรอง รวมอีกกว่า 900 ราย ที่ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม.-สำนักข่าวไทย