กมธ.ตำรวจ พบ “เคนมผง” ผสมยานอนหลับเกินขนาด

รัฐสภา 21 ม.ค.-กรรมาธิการตำรวจ พบส่วนผสม “เคนมผง” มียานอนหลับเกินขนาด เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 12 คน


นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ โฆษกกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวกรณียาเคนมผง หลังหน่วยงานต่างๆ  อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตัวแทนกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ตัวแทนสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ ตัวแทนสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน ตัวแทนโรงพยาบาลตำรวจ ตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบรามยาเสพติด และตัวแทนกรมการแพทย์ เข้าชี้แจง ว่า จากการให้ข้อมูลทำให้คณะกรรมาธิการรับทราบถึงสถานการณ์ยาเสพติดในปัจจุบันที่ยังคงมีความรุนแรง มีแหล่งผลิตโดยรอบประเทศ ซึ่งยาบ้าจะแพร่ระบาดในประเทศไทย ส่วนยาเสพติดประเภทอื่น เช่น ยาเคตามีน เฮโรอีน จะใช้ประเทศไทยเป็นเส้นทางลำเลียงไปสู่ต่างประเทศ

กรณียาเคนมผง มีส่วนผสมของเคตามีนเป็นสารหลัก และผสมยาเสพติดอื่นๆ จึงทำให้เกิดชื่อที่แตกต่างกันไป แต่มูลเหตุของการเสียชีวิต คือ สารไดอาซีแกรม ที่ประกอบอยู่ในเคตามีน ซึ่งเป็นยานอนหลับ หากผู้เสพเสพเกินขนาด 10 กรัม ก็สามารถทำให้เสียชีวิตได้  โดยจะเห็นได้จากการเสียชีวิตของกลุ่มวัยรุ่น 12 คน ที่เสพยาเคนมผม


โฆษกกรรมาธิการฯ กล่าวอีกว่า รูปแบบการค้ายาเสพติดเปลี่ยนจากซื้อขายผ่านตัวแทน มาเป็นซื้อขายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ดังนั้นคณะกรรมมาธิการฯ จึงมีข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหายาเสพติด คือให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามยาเสพติดที่ปัจจุบันมีหลายหน่วยงาน ที่มีลักษณะต่างคนต่างทำ ควรจัดทำยุทธศาสตร์ร่วมกัน โดยเห็นว่าควรควบคุมสารออกฤทธ์ต่อจิตประสาท ซึ่งผสมอยู่ในยาเสพติด เช่น แวเเลียม หรือ ไออาซีแกรม ที่ปัจจุบันสามารถซื้อได้ตามร้านขายยา แต่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์ โดยขอให้เปลี่ยนมาจัดจำหน่วยโดยแพทย์จากสถานพยาบาล หรือในโรงพยาบาลเท่านั้น และให้กำหนดสารออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท เป็นวัตถุที่ต้องกำหนดให้เข้มงวดมากขึ้น พร้อมขอความร่วมือบริษัทผู้ให้บริการขนส่งพัสดุเก็บรวมรวบ ข้อมูลบุคคลและพัสดุ เพื่อนำมาเป็นข้อมูลตรวจสอบหาผู้กระทำผิด.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง