สมาคมรถตู้ฯ วิ่งโร่ยื่นหนังสือถึงนายกฯเยียวยาผลกระทบโควิด

กรุงเทพฯ 12 ม.ค. – สมาคมรถตู้โดยสารสาธารณะ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้ช่วยเยียวยาผลกระทบโควิด-19 ระบาดระลอกใหม่ ให้ช่วยพักชำระค่างวดรถอย่างน้อย 3-6 เดือน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 จนทำให้มีจำนวนผู้โดยสารลดลง บางเที่ยวมีผู้โดยสาร 1-2 คนเท่านั้น


นายปัญญา เลิศหงิม นายกสมาคมรถตู้โดยสารสาธารณะ กรุงเทพฯ ปริมณฑล พร้อมสมาชิกเข้ายื่นหนังสือที่ศูนย์ดำรงธรรมทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับมอบหนังสือ โดยนายปัญญากล่าวว่า สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ส่งผลให้ผู้ประกอบการรถตู้โดยสารสาธารณะ หมวด 1 ที่ให้บริการในเส้นทางกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ซึ่งเป็นรถร่วมบริการขึ้นตรงกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่มีประมาณ 2,500-3,000 คัน ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากผู้โดยสารลดน้อยลงอย่างต่อเนื่องทุกเส้นทาง

โดยหากเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้ ในการระบาดรอบแรก และสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ทำให้ผู้โดยสารกลับมาใช้บริการอีกครั้งอยู่ที่ประมาณร้อยละ 60 หรือมากกว่า 60,000 คนต่อวัน แต่เมื่อมีการระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ ทำให้ปัจจุบันผู้โดยสารใช้บริการอยู่ที่ร้อยละ 20 หรือประมาณไม่ถึง 1,000 คนต่อวัน โดยประชาชนจำนวนมากมีความกังวลการระบาด, รัฐบาลเข้มงวดมาตรการป้องกันโควิด-19 จึงขอความร่วมมือถ้าไม่จำเป็นให้งดเดินทางข้ามจังหวัด ให้ทำงานอยู่ที่บ้าน ทำให้ตอนนี้มีการเดินทางเฉพาะช่วงเช้าเวลา 07.00 – 08.00 น. และ ช่วงเย็น 17.00-18.00 น. เท่านั้น ขณะที่บางเส้นทางวิ่งได้เที่ยวเดียวต่อวัน


ดังนั้นจึงต้องการให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาพักชำระค่าเช่าซื้อรายเดือนกับสถาบันการเงินทุกแห่ง เป็นเวลา 3-6 เดือน เพราะจะต้องส่งค่างวดประมาณ 24,000 บาทต่อเดือนต่อคัน ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้ เพราะครั้งที่โควิด-19 ระบาดรอบแรกรัฐบาลยังให้ความช่วยเหลือในการพักชำระหนี้เป็นเวลา 3 เดือน (เม.ย. – มิ.ย.63) จึงหวังว่ารัฐบาลจะช่วยผู้ประกอบการรถตู้อีก เพราะถ้าหากไม่ได้รับการพักชำระหนี้ทำให้ผู้ประกอบการรถตู้ต้องส่งรถกลับคืนให้กับบริษัทไฟแนนซ์และสถาบันการเงินต่อไป ซึ่งหลังจากโควิด-19 เริ่มคลี่คลายและสถานการณ์กลับมาปกติ ผู้โดยสารกลับมาใช้ชีวิตเดินทางเหมือนเดิมจะส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารที่มีรถตู้ไม่เพียงพอต่อบริการ . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น