“ลุงพล-ป้าแต๋น” ไม่เครียดเข้าเครื่องจับเท็จ

ปทุมธานี 8 ม.ค.-รอง ผบช.สพฐ. ระบุ “ลุงพล – ป้าแต๋น” ไม่เครียดเข้าเครื่องจับเท็จ ขณะผู้เชี่ยวชาญเตรียมสรุปผลส่งพนักงานสอบสวนนำไปประกอบสำนวน ลุ้นปิดคดี

สำหรับคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ เด็กหญิงอายุ 3 ขวบ เธอหายตัวไปจากหมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร วันที่ 11 พฤษภาคม 2563 ก่อนพบกลายเป็นศพบนภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ออกมาระบุว่า จากข้อมูลพยานหลักฐาน พบว่า น้องชมพู่ไม่สามารถเดินขึ้นไปบนจุดพบศพบนภูเหล็กไฟได้ด้วยตนเอง โดยมีเหตุผล 8 ข้อชี้ให้เห็น แต่จนถึงขณะนี้ ตำรวจยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะออกหมายจับ หรือดำเนินคดีกับใครได้ แต่จะยังคงสืบสวนต่อไป โดยไม่มีการปิดคดี


ช่วงเช้าวันนี้ ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน1 ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถตู้ออกไปรับตัว นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” พร้อมด้วย นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” คู่สามีภรรยา เข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม ด้วยการเข้าเครื่องจับเท็จ ที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 เพื่อคลี่คลายคดีการเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาของน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ

โดยทันทีที่มาถึง ตำรวจก็พาทั้ง 2 คนเข้าไปในตัวอาคารทันที เพื่อหลบเลี่ยงสื่อมวลชนที่มาปักหลักรอทำข่าวกันที่หน้าอาคารจำนวนมาก กระบวนการเข้าเครื่องจับเท็จในวันนี้ เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ช่วงเวลา 10.30 น. โดยจะมีนักจิตวิทยาร่วมสอบปากคำด้วย เพื่อสังเกตอากัปกิริยาท่าทางต่างๆ ในการตอบคำถามของทั้ง 2 คน รวมทั้งใช้เครื่องมือในการตรวจวัดชีพจรหรือเครื่องจับเท็จ ซึ่งเป็นหนึ่งในขั้นตอนของกฎหมาย โดยการเข้าเครื่องจับเท็จจะ ไม่ใช่จุดตัดสิน หรือชี้ขาด ว่าใครเป็นคนผิดในคดีน้องชมพู่ แต่สามารถใช้เป็นส่วนหนึ่งประกอบสำนวนคดีได้


จากการสอบถามนายเจริญ มีพองแสน ซึ่งเป็นคนที่ขับรถพาลุงพลและป้าแต๋น ได้ให้การว่า ตนเดินทางมาจากจังหวัดมุกดาหาร ระบุว่าได้เดินทางมารอเข้าเครื่องจับเท็จกันตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ซึ่งตลอดการเดินทางทั้ง 2 คนไม่มีท่าทีกังวลอะไร เพราะยังมั่นใจว่าไม่ใช่คนกระทำผิด

ด้านพลตำรวจตรีสันติ์ สุขวัจน์ รองผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน เปิดเผยถึงการนำลุงพล – ป้าแต๋น เข้าเครื่องจับเท็จ ว่า เป็น 1 ในกระบวนการสอบสวน และเป็นส่วนหนึ่งของหลักฐานที่จะใช้ประกอบสำนวนคดีนี้ แต่ไม่ใช่การชี้ขาดว่าใครคือคนร้ายฆาตกรรมน้องชมพู่

ส่วนสาเหตุที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนเชิญคนในครอบครัวของน้องชมพู่ รวมถึงลุงพลกับป้าแต๋น ให้มาเข้าเครื่องจับเท็จ เนื่องจากเห็นว่า เป็นบุคคลใกล้ชิดที่สามารถเข้าถึงตัวน้องชมพู่ได้ง่าย โดยที่เด็กไม่ร้องหรือต่อต้าน ซึ่งไม่ได้หมายความว่าบุคคลเหล่านี้คือคนร้าย หรือ ผู้ต้องสงสัย ในคดี


สำหรับการนำลุงพล – ป้าแต๋น เข้าเครื่องจับเท็จวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้เชิญป้าแต๋น เข้าสู่กระบวนการก่อน โดยเริ่มเข้าเครื่องจับเท็จเวลา 11.00 น. แล้วเสร็จในเวลา 15 นาฬิกา รวมระยะเวลา 4 ชั่วโมง ส่วนลุงพล เข้าเครื่องจับเท็จตั้งแต่ 15.00 น. จนถึงเวลาประมาณ 18.30 น.

บรรยากาศการเข้าเครื่องจับเท็จของลุงพล – ป้าแต๋น นั้น เป็นไปด้วยดี ไม่มีใครที่มีอาการเครียด หรือเจ็บป่วย ส่วนกระบวนการเข้าเครื่องจับเท็จที่ผ่านมา ตำรวจได้ใช้ประกอบสำนวนคดีสำคัญมาแล้วหลายคดี อย่างเช่น คดีเสริม สาครราช ฆาตกรรมแฟนสาว และคดีหมอวิสุทธิ์ ฆาตกรรมแพทย์หญิงผัสพร โดยผลจากการเข้าเครื่องจับเท็จของทั้ง 2 คดี ที่มีการจับปฏิกิริยาของร่างกายในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญทำการซักถาม เป็นหลักฐานส่วนหนึ่งที่ศาลรับฟัง จนนำไปสู่การพิจารณาคดี

สำหรับการทำงานของเครื่องจับเท็จ จะเริ่มจาก การซักถามประวัติของบุคคล ก่อนจะอ่านคำถามในการเข้าเครื่องจับเท็จให้ฟัง พร้อมกับสร้างความคุ้นเคยของทั้ง 2 ฝ่าย คือผู้เชี่ยวชาญกับผู้ที่เข้าเครื่องจับเท็จ ซึ่งในครั้งนี้ก็คือลุงพลกับป้าแต๋น หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ติดตั้งอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ทางการแพทย์เพื่อวัดคลื่นหัวใจและความดัน ขั้นตอนนี้ถ้าหากมีการโกหก แม้ร่างกายภายนอกจะดูปกติ แต่ปฏิกิริยาภายในจะแสดงมาในรูปแบบกราฟ จากนั้นผู้เชี่ยวชาญก็จะนำกราฟวิเคราะห์ ก่อนสรุปผลส่งให้พนักงานสอบสวนภายใน 30 วัน เพื่อประกอบในสำนวนคดี ส่วนศาลจะรับฟังหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ

ทางด้าน พล.ต.ต.สันติ์ สุขวัจน์ รองผบช.สพฐ.รองผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน ยืนยันว่า เครื่องจับเท็จที่นำมาใช้กับลุงพล – ป้าแต๋น มีมาตรฐานสากล เพราะเป็นแบบเดียวกันกับที่สหรัฐอเมริกาใช้ ซึ่งถือเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่