โควิดส่งผลเมาแล้วขับปีใหม่ลด

กรมคุมประพฤติ 7ม.ค.-โควิดส่งผลเมาแล้วขับปีใหม่64 ลดร้อยละ 63 ทำผิดซ้ำ 203 รายส่งเข้าค่ายปรับพฤติกรรมและเริ่มใส่กำไลอิเล็กทรอนิกส์


นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ แถลงสถิติคดีที่คุมประพฤติ ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2564 ภายใต้ชื่อ “คุมประพฤติใส่ใจ สร้างความปลอดภัยทางถนน เมาขับจับติดEM” โดย 7 วันที่มีการควบคุมเข้มงวดระหว่างวันที่29 ธันวาคม 2563-4 มกราคม 2564 มีคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติ 4,648คดี แบ่งเป็น คดีขับรถในขณะเมาสุรา 4,435คดี หรือร้อยละ 95.42 คดีเสพ 193คดี ร้อยละ4.15 คดีขับรถประมาท 20คดี ร้อยละ 0.43 เมื่อเทียบกับช่วงปี2563 พบว่าคดีขับรถขณะเมาสุรา ลดลงถึง 7,562 คดีหรือร้อยละ 63 และไม่พบเหตุจากการ ขับรถแข่งในปีใหม่นี้

อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบประวัติการกระทำผิดย้อนหลัง 3 ปี พบผู้กระทำผิดซ้ำในคดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 203 ราย และมีผู้กระทำผิดซ้ำในฐานความผิดเดียวกันจากช่วงเทศกาลปีใหม่63 จำนวน 18 รายและมีการกระทำผิดซ้ำในคดีขับเสพ 9 ราย


ทั้งนี้ ปีใหม่นี้ (ปี64) มีการติดกำไลอีเอ็มปีแรก ซึ่งในจำนวนคดีเมาแล้วขับ 4,435 คดี ศาลสั่งติดกำไล 58 ราย โดยกำหนดเงื่อนไขห้ามออกจากที่พัก ในเวลา23.00-04.00น. เป็นเวลา30วัน โดยเป็นกลุ่มที่ดื่มหนัก ดื่มเป็นประจำ และขับรถขณะดื่ม จึงสั่งห้ามออกไปขับในช่วงเวลาอันตราย

อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ติดสุราระดับสูงจะถูกส่งตัวเข้ารับการบำบัดให้หายติดสุราเป็นเวลา 4เดือน ส่วนผู้กระทำผิดซ้ำ จะถูกส่งเข้าค่ายเข้มข้น ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นเวลา 3 วันต่อเนื่อง ร่วมกับการทำงานบริการสังคม เช่น การดูแลเหยื่อจากเมาแล้วขับ การช่วยงานในโรงพยาบาล และการให้ตวามรู้สร้างจิตสำนึก เช่นการเยี่ยมชมห้องดับจิตและตึกอุบัติเหตุ โดยคงมาตรการรักษาความปลอดภัยจากโควิดอย่างเข้มงวด นอกจากนี้ กรมคุมประพฤติ มีแนวคิดที่จะเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการพักใช้ใบอนุญาตชั่วคราวผู้ที่เมาแล้วขับด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง