ยธ.17 มิ.ย.- คุมประพฤติแจงไม่ต้องส่งเจ้าหน้าที่ไปศาลพร้อม “ทักษิณ” แม้อยู่ระหว่างคุมประพฤติ ชี้หากไม่ไปก็ยังไม่ผิดเงื่อนไขจนกว่าจะติดต่อไม่ได้ ด้านอธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมคุมตัว “ทักษิณ” เข้าเรือนจำหากไม่ได้ประกันพรุ่งนี้ ชี้ถ้าไม่ป่วยก็ไม่สามารส่งรักษานอกเรือนจำ
นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดี และโฆษกกรมคุมประพฤติ กล่าวถึงกรณีอัยการมีคำสั่งฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และนัดส่งตัวไปศาลวันพรุ่งนี้ (18 มิ.ย.) นั้น ว่า แม้นายทักษิณจะอยู่ระหว่างถูกคุมประพฤติ แต่เนื่องจากคดีดังกล่าว เกิดขึ้นก่อน ไม่ได้เกิดระหว่างถูกคุมประพฤติ จึงไม่เกี่ยวเนื่องกันไม่จำเป็นต้องรายงานคุมประพฤติ กรมคุมประพฤติไม่ต้องส่งเจ้าหน้าที่ร่วมไปกับนายทักษิณ ที่ผ่านมานายทักษิณ ปฏิบัติตามเงื่อนไขโดยตลอด ก่อนเดินทางออกนอกพื้นที่ไปจังหวัดอื่นๆ ก็แจ้งตามระเบียบทุกครั้ง และได้เข้ารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่คุมประพฤติ ที่สำนักงาานคุมประพฤติ กรุงเทพมหานคร 1 ทุกเดือนครบ 4 เดือนที่ผ่านมา โดยเดือนมิถุนายนมีกำหนดรายงานตัวช่วงปลายเดือนจึงยังไม่ถึงกำหนด ซึ่งตามหลักการที่ปฏิบัติกับผู้ถูกคุมประพฤติโดยทั่วไป หากประพฤติตนเรียบร้อย ไม่ผิดเงื่อนไข รายงานตัวครบ 4 ครั้ง เจ้าหน้าที่อาจผ่อนผันให้พบ หรือรายงานตัวเดือนเว้นเดือนได้
โฆษกกรมคุมประพฤติ กล่าวอีกว่า กรณีวันพรุ่งนี้ถ้านายทักษิณ ไปศาลตามนัด ก็เข้าสู่กระบวนการศาลปกติ แต่ถ้าหากไม่ไปก็ยังไม่ได้ผิดเงื่อนไขคุมประพฤติทันที ต้องดูเหตุผลก่อนว่าที่ไม่ไปเพราะอะไร อาจจะป่วย ไม่สบาย ในส่วนของกรมคุมประพฤติ ถ้าเกิดปรากฏข่าวว่า นายทักษิณไม่ไปปรากฏตัวต่อศาล ก็จะมีเจ้าหน้าที่ไปสอดส่องดูว่ายังอยู่ในพื้นที่หรือไม่ เป็นอะไรไหมจึงไม่ไปศาล ถ้าสาเหตุเกิดจากเหตุจำเป็นจริงๆ ก็ถือว่าไม่ได้ผิดเงื่อนไขคุมประพฤติ หรือไปแล้วไม่เจอตัวก็คงต้องตามดูก่อนว่าไปอยู่ไหน จนกระทั่งติดตามได้ ยังไม่ผิดเงื่อนไข จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่า ไม่อยู่แล้วจริงติดต่อไม่ได้ ในเบื้องต้นต้องสันนิษฐานว่ายังไม่ผิดเงื่อนไข โดยหลักการคุมประพฤติเน้นการให้โอกาส แก้ไขได้ ส่วนใหญ่แม้พบผิดเงื่อนไขบ้างก็อาจมีการปรับเปลี่ยน เพิ่มเงื่อนไข แต่ไม่ถึงขั้นส่งตัวกลับเรือนจำ
แหล่งข่าวระดับสูง เปิดเผยว่า กรณีนายทักษิณ ซึ่งอยู่ในกลุ่มพักการลงโทษ ซึ่งจะครบกำหนดคุมประพฤติ และพ้นโทษ ช่วงวันที่ 22 สิงหาคม 2567 แต่หาก ในวโรกาสสำคัญเดือน ก.ค.นี้ มีพระราชกฤษฏีกาพระราชทานอภัยโทษ กลุ่มผู้ถูกคุมประพฤติจากการพักการลงโทษ หรือลดวันต้องโทษก็จะเข้าข่ายได้พ้นโทษทันที
ขณะที่นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าหากวันพรุ่งนี้ (18 มิ.ย.) อัยการมีการนำตัวนายทักษิณ ส่งฟ้องต่อศาล หากศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราว และมีคำสั่งฝากขังยังเรือนจำใด บุคคลนั้นก็จะต้องถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวเข้าเรือนจำ โดยเป็นการแยกออกจากคดีเก่าที่เจ้าตัวมีโทษจำคุกและอยู่ระหว่างการพักโทษ เพราะคดีความผิด ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพ์ฯ นี้เป็นคดีใหม่อีกคดี เป็นคนละส่วนกัน จะต้องถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพราะเป็นเรือนจำระหว่างพิจารณาคดี
ส่วนที่นายทักษิณ อยู่ระหว่างพักโทษ และคุมประพฤติ ได้รับการพักโทษและถูกคุมประพฤตินั้น นายสหการณ์ บอกว่า ต้องมองผลการพิจารณาของศาลในวันพรุ่งนี้ หากศาลไม่อนุญาตประกันตัวชั่วคราว การพักโทษก็จะไม่มีผลอะไร เพราะผู้ถูกคำสั่งศาล จะต้องถูกนำตัวเข้าเรือนจำฯ อย่างไรก็ตาม การพักโทษจะไม่ได้มีอันยุติลง ยืนยันว่าสิทธิ์ในการพักโทษยังคงมีอยู่ ระยะเวลาก็ดำเนินไปตามปกติจนกว่าจะครบ 6 เดือน เพียงแต่ช่วงที่ศาลสั่งควบคุมตัว การพักโทษก็ไม่ได้ส่งผลอะไร
ส่วนข้อกังวลของสังคมที่อาจจะมองว่าหากเข้าเรือนจำแล้วมีอาการเจ็บป่วย จะต้องส่งตัวไปนอนพักรักษาภายนอกเรือนจำฯ เป็นครั้งที่ 2 หรือไม่ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า การจะส่งไปรักษาตัวภายนอกเรือนจำฯ ขึ้นอยู่กับอาการเจ็บป่วยของผู้ต้องขัง ถ้าไม่มีการเจ็บป่วย ทางราชทัณฑ์ก็ไม่สามารถอนุญาตให้ส่งตัวออกไปรับการรักษาได้อยู่แล้ว ส่วนเรื่องระเบียบคุมขังนอกเรือนจำฯ ก็ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ยืนยันว่า ณ ตอนนี้ยังไม่สามารถใช้กับผู้ต้องขังรายใดได้ แต่กรมราชทัณฑ์ก็พยายามเร่งรัดเรื่องการวางกรอบแนวทาง หลักการปฏิบัติสำหรับราชทัณฑ์และผู้ต้องขังที่มีคุณสมบัติ เพราะค้างมานานแล้ว .-119-สำนักข่าวไทย