ปราจีนบุรี ป่วยเพิ่ม 5 ราย สังสรรค์ปีใหม่

ปราจีนบุรี 5 ม.ค.-ปราจีนบุรี พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 5 ราย ร่วมสังสรรค์ปีใหม่กับผู้ป่วยที่มาจากสมุทรปราการ

นายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี นายแพทย์โชคชัย สาครพานิช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี นางโศรยา ธรรมรักษ์ ผอ.รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ร่วมแถลงข่าวจากการที่จังหวัดปราจีนบุรี พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีก 5 ราย ทีมสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี อสม.ได้ลงพื้นที่สอบสวนโรค กลุ่มเสี่ยงสูงที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่ทำงานในโรงงานจังหวัดสมุทรปราการ ได้เดินทางมาเที่ยวปีใหม่ที่บ้าน ต.ดงพระราม ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.63 และมีการสังสรรค์ที่บ้านกับญาติๆ รวมประมาณ 10 คน วันที่ 31 ธ.ค.63 เดินทางไปทำบุญที่วัดดงพระราม เมื่อเดินทางกลับไปที่จังหวัดสมุทรปราการ ทางโรงงานให้คนงานตรวจหาเชื้อโรคโควิด ผลออกมาว่าติดเชื้อ แต่ไม่มีไข้ ทางทีมสาธารณสุขได้ทำการ swap กลุ่มเสี่ยงแล้วผลตรวจพบเชื้อจำนวน 5 ราย เป็นกลุ่มที่นั่งสังสรรค์ ดื่มสุรา สูบบุหรี่ ร่วมกัน


ผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี แถลงว่า ผู้ป่วยที่พบ 5 ราย เป็นกลุ่มที่ใกล้ชิดผู้ป่วยโดยตรง คือกลุ่มที่สังสรรค์ ดื่มสุรา สูบบุหรี่ ร่วมกับผู้ป่วยที่มาจากสมุทรปราการ มีการสังสรรค์กันจำนวน 18 ราย และกลุ่มที่ไปทำบุญที่วัดอีก 23 ราย รวมแล้ว 41 ราย พบผู้ติดเชื้อ 5 ราย คือกลุ่มที่อยู่ในงานเลี้ยงสังสรรค์ ส่วนกลุ่มที่ไปทำบุญที่วัดไม่พบเชื้อ ขณะนี้รับตัวมาทำการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร

ผู้ป่วย รายแรก อายุ 70 ปี วันที่ 30 ธ.ค. ร่วมงานเลี้ยงที่บ้าน 31 ธ.ค. ทำบุญร่วมกันที่วัด รายที่ 2 เย็นวันที่ 30 ร่วมสังสรรค์ด้วยกัน รายที่ 3 อายุ 32 ปี วันที่ 30 ธ.ค. ก็ไปร่วมงานเลี้ยงที่บ้าน วันที่ 31 ธ.ค. ก็ไปเลี้ยงเพลที่วัด ผู้ป่วยรายที่ 4 อายุ 23 ปี วันที่ 30 มางานเลี้ยงร่วมกัน วันที่ 31 ก็ไปเลี้ยงพระที่วัด และไปเดินห้าง รายที่ 5 เป็นผู้ที่ดูแลผู้ป่วยติดเตียงอยู่ที่บ้าน เป็นญาติกับคนที่มาด้วยกันจากสมุทรปราการ


ด้านนายแพทย์โชคชัย สาครพานิช กล่าวว่า ทางสาธารณสุขได้เฝ้าระวังและเตรียมความพร้อม ด้านระบบสอบสวนโรค สนับสนุนบุคลากร เวชภัณฑ์ รู้เร็ว รักษาเร็ว ควบคุมโรคเร็ว เพื่อให้การป้องกันการแพร่กระจายของโรคเกิดขึ้นน้อยที่สุด ส่วนการรักษาผู้ที่พบเชื้อทั้ง 5 ราย นางโศรยา ธรรมรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับผู้ป่วยทั้ง 5 ราย มาดูแลที่โรงพยาบาล มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขป้องกันให้เรียบร้อยแล้ว ส่วนผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย 5 ราย ขณะนี้ผลยังเป็นลบ และจะมีการติดตามมา swap ซ้ำ ฝากประชาชนดูแลสุขภาวะส่วนตัว สวมแมสก์ ไม่รับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่นและขอความร่วมมือ ผู้ป่วยหรือผู้ใกล้ชิดอย่าปกปิด ไทม์ไลน์ ซึ่งจากการพบผู้ติดเชื้อในครั้งนี้ ทำให้จังหวัดปราจีนบุรี ยอดผู้ป่วยระลอกใหม่ทั้งหมดรวม 7 ราย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง