“ศักดิ์สยาม” ยันแผนฟื้นฟู ขสมก.ไม่ต้องนับหนึ่ง

กรุงเทพฯ 28 ธ.ค. – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยืนยัน แผนฟื้นฟู ขสมก.ไม่ต้องนับหนึ่ง แค่ส่งบอร์ดสภาพัฒน์ เคาะอีกรอบ แต่ฝากปลัดคมนาคมถาม รอบนี้จบไหม หากแผนฯเป็นหมัน รอบนี้ ถือว่าเป็นเวรเป็นกรรมของประชาชน ต้องใช้รถเก่า ขสมก. หนี้ก็พุ่งไม่หยุด


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยกรณีที่มีรายข่าวระบุว่า แผนฟื้นฟูขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. ที่กระทรวงคมนาคม ผลักดันมานั้น ส่อเค้าต้องกลับไปนับหนึ่งใหม่ หลังเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ส่งเรื่องกลับมาที่กระทรวงคมนาคม เพี่อขอให้กลับไปถามความเห็นของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง โดยนายศักดิ์สยาม ยืนยันว่า แผนฟื้นฟู ขสมก. ไม่ได้ต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่แน่นอน เนื่องจากแผนได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ไปแล้ว โดยหลังจากนี้ กระทรวงคมนาคม จะส่งรายละเอียดของฟื้นฟู ให้คณะกรรมการ หรือ บอร์ดของสภาพัฒน์พิจารณา ซึ่งเมื่อบอร์ดสภาพัฒน์พิจารณาแล้วเสร็จกระทรวงคมนาคม ก็จะมีการนำเสนอแผนฟื้นฟูนี้ เข้าสู่การพิจารณาของ ครม.อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ได้ฝากประเด็นนี้ให้นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม สอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยว่า ยังมีประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวข้องกับแผนฟื้นฟูกิจการของ ขสมก.อีกหรือไม่

“ ให้ปลัดกระทรวงคมนาคม ไปถามอีกครั้งว่า รอบนี้จะจบไหม ถ้ารอบนี้ไม่จบ ก็ถือว่าเป็นเวรเป็นกรรม ของประชาชนผู้ใช้รถเมล์โดยสาร ที่ต้องใช้รถเมล์เก่าไม่มีคุณภาพ มานาน และไม่รู้ว่าจะต้องทนไปอีกนานแค่ไหน ขณะที่ภาระหนี้ขาดทุนสะสมของ ขสมก. ก็ยังเดินไม่หยุด แต่ละเดือน ขสมก.ต้องชดเชยภาระขาดทุนจากการให้บริการแบบเดิม เดือนละประมาณ 300 ล้านบาทหรือปีละ 4,000 ล้านบาท ภาระเหล่านี้ตัวเลขก็จะเดินต่อไม่หยุด หากไม่ได้รับการแก้ปัญหา” นายศักดิ์กล่าว


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวย้ำว่า สาระสำคัญของการแก้ปัญหาของ ขสมก.รอบนี้ ซึ่งมีการปรับปรุงจากแผนเดิม มั่นใจว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุด เช่น การปรับรูปแบบจากการซื้อรถมาเช่าวิ่งตามระยะทาง เปลี่ยนเชื้อเพลิงที่ส่งผลดีในระยะยาว ลดผลกระทบปัญหาสิ่งแวดล้อม ในภาวะที่ไทยมีปัญหาฝุ่น PM 2.5 หนัก การปรับเปลี่ยนการจัดเก็บค่าโดยสารแบบเหมาจ่ายต่อวัน ซึ่งภาพรวมจะช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชน รวมทั้งการปรับเปลี่ยนเส้นทาง ให้มีความเหมาะสม กับการเชื่อมโยงระบบขนส่งอื่น

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าว ได้ถามนายศักดิ์สยาม ถึงประเด็น ที่ถูกสื่อมวลชน ประจำทำเนียบรัฐบาล ตั้งฉายาว่า “ศักดิ์สบาย สายเขียว” นั้น เบื้องต้นต้องขอบใจที่สื่อมวลชนที่ให้ความสำคัญมีฉายาให้ และไม่ลืมกัน และยืนยันว่า เมื่อมีภารกิจในการทำงานที่กระทรวงคมนาคม ก็มุ่งมั่นยึดถือการทำงานเป็นหลัก . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง