กทม. 12 ธ.ค. – รมว.ยุติธรรม กำชับเรือนจำเชียงใหม่-เชียงราย คุมเข้มโควิด ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ ยืนยันทำตามมาตรการเข้มข้นใส่แมสก์ล้างมือสม่ำเสมอ นักโทษใหม่เข้าห้องกักโรค 16 วัน เคลียร์ให้ชัวร์ก่อนเข้าแรกรับ ต้องงดเยี่ยมญาติชั่วคราว คนนอกห้ามเข้า
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ใน จ.เชียงใหม่และเชียงราย ว่า ได้กำชับให้ทางเรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่ เรือนจำกลางจังหวัดเชียงราย และเรือนจำในพื้นที่ใกล้เคียง มีมาตรการควบคุมสถานการณ์อย่างเข้มงวด จากรายงานทั้ง 2 พื้นที่ สถานการณ์ยังปกติ ไม่มีผู้ติดเชื้อ และมีมาตรการที่เข้มงวดตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข ส่วนผู้ต้องขังให้ล้างมือและเท้าด้วยแอลกอฮอล์ รวมถึงการตรวจวัดไข้จากแพทย์ สำหรับเจ้าหน้าที่ในเรือนจำให้สวมใส่หน้ากากอนามัยขณะปฏิบัติงานและล้างมือด้วยแฮลกอฮอล์อย่างสม่ำเสมอ วัดอุณภูมิก่อนเข้า รวมทั้งกำชับว่าอย่าไปในที่คนพลุกพล่านเป็นจำนวนมาก
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ผู้ต้องขังเข้าใหม่จะมีมาตรการตรวจร่างกายก่อนเข้าเรือนจำ และแยกเข้าห้องกักโรครวมทั้งหมด 16 วัน ตรวจร่างกายซ้ำอีกรอบ เมื่อปลอดเชื้อ 100% จึงจะนำตัวเข้าแดนแรกรับ สำหรับการเข้าเยี่ยมญาติ ทางเรือนจำได้หยุดการเข้าเยี่ยมไว้ก่อนจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น เบื้องต้นห้ามเยี่ยมจนถึงสิ้นเดือน ธ.ค. และขณะนี้ห้ามผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของเรือนจำเข้าโดยเด็ดขาด เพื่อเป็นการป้องการนำเชื้อเข้าสู่เรือนจำ ขณะนี้สภาพความแออัดในเรือนจำถือว่าดีขึ้นมาก หลังจากมีนโยบายนำเตียง 2 ชั้นเข้าไปใช้ ทำให้ผู้ต้องขังมีพื้นที่มากขึ้น ไม่ต้องนอนแออัดเบียดเสียดเหมือนเมื่อก่อน นอกจากทำให้ผู้ต้องขังลดความเครียด มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นแล้ว ยังเจ็บป่วยลดลงด้วย
“ได้สั่งการให้เรือนจำทุกแห่งมีมาตรการป้องกันโควิดอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดที่พบผู้ป่วยโควิด เพราะหากเชื้อเข้าสู่เรือนจำแล้วจะควบคุมการแพร่ระบาได้ยาก เพราะแต่ละเรือนจำมีผู้ต้องขังหลายพันคน ดังนั้นต้องมีมาตรการที่เข้มข้นในการป้องกันเอาไว้ก่อน จากการรายงานเข้ามาของแต่ละเรือนจำถือว่าทำได้ดีมาก แต่ได้กำชับว่าห้ามประมาทเด็ดขาด ต้องควบคุมให้เข้มงวดตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข” นายสมศักดิ์ กล่าว. – สำนักข่าวไทย