กัวลาลัมเปอร์ 24 พ.ย.- มาเลเซียจะปิดโรงงานบางส่วนของท้อปโกลฟ ผู้ผลิตถุงมือยางใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อตรวจคัดกรองโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 หลังจากพนักงานกว่า 2,000 คนมีผลตรวจเป็นบวก ข่าวดังกล่าวทำให้ราคาหุ้นของบริษัทร่วงกว่าร้อยละ 7.5 ทันทีที่เปิดตลาด
นายนูร์ ฮิชัม อับดุลลาห์ อธิบดีสาธารณสุขแถลงว่า พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมากในพื้นที่ที่เป็นที่ตั้งโรงงานและหอพักพนักงานของท้อปโกลฟ ผลตรวจพนักงาน 5,767 คน มีผลตรวจเป็นบวก 2,543 คน มีทั้งชาวมาเลเซียและชาวต่างชาติ รัฐบาลจึงจะทยอยปิดโรงงานของบริษัท 28 โรง พนักงานที่มีผลตรวจเป็นบวกถูกส่งไปรักษาตัวในโรงพยาบาลแล้ว ส่วนคนใกล้ชิดถูกกักตัวเพื่อเลี่ยงการแพร่เชื้อ ด้านนายอิสมาอิล ซาบรี ยาคอบ รัฐมนตรีความมั่นคงอาวุโสเผยว่า รัฐบาลเห็นด้วยตามคำแนะนำและประเมินความเสี่ยงของกระทรวงสาธารณสุขว่าควรทยอยปิดโรงงานของท้อปโกลฟ เพื่อคัดกรองและกักตัวผู้ติดเชื้อ แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าจะเริ่มเมื่อใด สัปดาห์ที่แล้วรัฐบาลได้สั่งใช้มาตรการจำกัด 14 วันจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายนกับหลายพื้นที่ในเขตที่ห่างจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปทางตะวันตก 40 โลเมตร ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานและหอพักของบริษัทนี้
ท้อปโกลฟแจ้งต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่า ได้ระงับการผลิตชั่วคราวที่โรงงาน 16 โรงในพื้นที่นั้นตั้งแต่วันพุธที่แล้ว และลดกำลังผลิตที่โรงงานอีก 12 โรง ผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้มีกำไรมากเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ เพราะโลกมีความต้องการถุงมือยางและชุดอุปกรณ์ป้องกันมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเพราะโรคโควิด-19 แพร่ระบาด ข่าวการทยอยปิดโรงงานทำให้ราคาหุ้นลดลงมากถึงร้อยละ 7.5 เมื่อเปิดการซื้อขายในเช้าวันนี้.- สำนักข่าวไทย