ระทึก! อาคารพาณิชย์ทรุดตัว ชาวบ้านหนีตายวุ่น

ฉะเชิงเทรา 3 พ.ย. – สุดระทึก! อาคารพาณิชย์ 2 ชั้น อายุ 30 ปี มีการต่อเติมโดยไม่ได้รับอนุญาต เกิดการทรุดตัวจนคานเริ่มรับน้ำหนักไม่ได้ เทศบาลฯ สั่งอพยพชาวบ้านไปยังที่ปลอดภัย


เมื่อเวลา 20.30 น. วานนี้ (2 พ.ย.) นางสมจิตร์ พันธุ์สุวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลท่าข้าม พร้อมกำนัน ต.ท่าข้าม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น บริเวณตลาดสดบางแสม พื้นที่หมู่ 6 ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา หลังเกิดการทรุดตัว และทำให้อาคารข้างเคียงแตกร้าว 3 คูหา ซึ่งอาคารนี้ก่อสร้างมากว่า 30 ปีแล้ว เบื้องต้นเทศบาลตำบลท่าข้าม ให้ผู้อาศัยอพยพออกมาทั้ง 8 คูหา โดยหาที่พักอาศัยให้ และกันพื้นที่เขตอันตราย พร้อมประสานการไฟฟ้าฯ ให้มาตัดไฟ เพื่อความปลอดภัย พบอาคารหลังนี้มีการต่อเติมโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้ตัวคานที่รับน้ำหนักของอาคาร ระหว่างชั้น 1 และชั้น 2 เกิดรอยร้าวฉีกตัวเป็นช่วงๆ ส่วนโดยรอบอาคารเริ่มมีการทรุดตัว

อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่ปลัดอาวุโส ปลัดฝ่ายความมั่นคง และท้องถิ่นอำเภอฯ ได้เข้าร่วมตรวจสอบขณะมีการขนย้ายข้าวของออกจากอาคาร เกิดเสียงลั่นของอาคารอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องหยุดขนย้ายแล้วปิดประตู เพื่อป้องกันการทรุดตัวของอาคาร ก่อนที่เทศบาลตำบลท่าข้าม จะนำแนวกั้นเขตอันตรายมาทำเขตไว้ เพื่อป้องกันชาวบ้านที่จะผ่านบริเวณดังกล่าว


จากการสอบถามนายนรินทร์ สนิทกูล อายุ 54 ปี เจ้าของอาคาร ให้ข้อมูลว่า เพิ่งซื้ออาคารดังกล่าวมาเมื่อปี 2559 และมีการต่อเติมเป็น 3 ชั้น โดยให้คนเช่าทำร้านขายข้าวถ้วยมา 3 ปีแล้ว แต่ช่วงหลังมีเสียงลั่นของตัวอาคารถี่ขึ้น จึงนำช่างมาดู ก่อนจะนำเหล็กมาเสริมคานตรงกลาง ซึ่งคิดว่าไม่มีอะไรแล้ว แต่สุดท้ายคนที่เช่าอยู่มาบอกว่า วันนี้พื้นเกิดการทรุดตัวอย่างน่ากลัว และอาคารเริ่มเอียง ขณะที่ภายในตัวอาคารมีการเก็บข้าวสารและถังแก๊สจำนวนมาก จึงอาจเพิ่มน้ำหนักให้ตัวอาคารทรุด

ด้านเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปสำรวจพบว่า ตึกที่อยู่ติดกับคานด้านหลัง เกิดหักและแยกตัวออก พร้อมจะถล่มได้ทุกเมื่อ อีกทั้งต้องกันคนที่อยู่ในอาคารออกมาด้านนอกทั้งหมด โดยทางเทศบาลฯ ได้จัดที่พักให้ ขณะที่บางคนได้ไปอาศัยนอนกับญาติ และมาเก็บของในช่วงเช้าวันนี้ (3 พ.ย.) ซึ่งด้านนอกอาคารพบรอยร้าวและการบิดตัวของปูน รวมถึงคานอย่างเห็นได้ชัด จึงมองว่าคานรับน้ำหนักด้านล่างน่าจะหักและรับน้ำหนักไม่ได้ เนื่องจากเป็นโพรง จึงต้องรอทีมวิศวกรลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้งในวันนี้. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง