fbpx

รถพ่วง 22 ล้อ วูบหลับใน พุ่งชนรถจอดข้างทางพังยับ 7 คัน

ฉะเชิงเทรา 12 ก.ย. – หนุ่มวัย 28 ปี ขับรถพ่วง 22 ล้อ ขนขยะจาก กทม. มุ่งหน้า อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา วูบหลับใน รถเสียหลักพุ่งชนรถจอดข้างทางพังยับรวม 7 คัน


วานนี้ (11 ก.ย.) ตำรวจ สภ.แสนภูดาษ จ.ฉะเชิงเทรา รับแจ้งรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ขนขยะจาก กทม. มุ่งหน้า อ.พนมสารคาม เสียหลักพุ่งชนรถจอดริมทาง บนถนนทางหลวงชนบท สาย ฉช.3001 ฉะเชิงเทรา-อ่อนนุช ด้านฝั่งมุ่งหน้าถนนสาย 314 สามแยกประเวศ (ฉะเชิงเทรา-บางปะกง) จึงนำกำลังรุดตรวจสอบจุดเกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ แบบสาลี่ 2 ตอน บรรทุกขยะเปียกมาเต็มคันรถ พุ่งชนรถบรรทุก 6 ล้อแบบตู้ทึบ ที่จอดอยู่ริมไหล่ทาง จนตัวรถหมุนขวางปิดช่องจราจร นอกจากนี้ยังมีรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้าสีเทา ถูกส่วนท้ายของรถบรรทุก 6 ล้อตู้ทึบ สะบัดมาทับจนบี้แบนเกือบทั้งคัน


ส่วนด้านข้างของรถ 6 ล้อตู้ทึบ ที่เบียดติดกับรถเก๋งคันแรก ยังมีรถเก๋งยี่ห้อนิสสันสีเขียว ถูกรถบรรทุกทับจนตัวรถบี้ นอกจากนี้ยังมีรถจักรยานยนต์สีเทา ถูกชนจนด้านหน้าพังยับเยินกว่าครึ่งคัน ห่างออกไปยังบริเวณด้านหน้าของตัวรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ยังพบรถยนต์ถูกชนพังเสียหายอีก 2 คัน โดยเป็นรถเก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิสีขาว 1 คัน นอนตะแคงข้าง ลักษณะใต้ท้องรถแปะติดอยู่กับด้านหน้าของตัวรถบรรทุกพ่วง และรถกระบะยี่ห้ออีซูซุสีเทา ถูกแรงกระแทกจนทำให้บริเวณด้านหลังกระบะได้รับความเสียหายเล็กน้อย

นอกจากนี้ยังมีแผงลอยปิ้งย่างไส้กรอก เนื้อย่าง และแหนมริมทาง ถูกกวาดจนข้าวของกระจัดกระจาย แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ นอกจากคนขับรถบรรทุกพ่วงที่มีร่องรอยบาดแผลที่ขาด้านซ้ายเพียงเล็กน้อย

นายราเชนทร์ อายุ 37 ปี คนขับรถบรรทุกพ่วง เล่าว่า ขณะเกิดเหตุวูบหลับ โดยไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น เมื่อรู้สึกตัวอีกทีปรากฏว่ารถบรรทุกพ่วงคันที่ขับมาพุ่งชนรถคันอื่นๆ จนพังเสียหายไปหมดแล้ว ตนเองได้รับบาดเจ็บขาซ้ายมีบาดแผล 1 แผล


ทีมข่าวได้ไปพูดคุยกับนายสำเริง อายุ 58 ปี เจ้าของรถเก๋งโตโยต้าโคโรล่าสีดำ เล่าว่า ตนเพิ่งไปซื้อรถคันนี้ ราคา 40,000 บาท แล้วกำลังจะกลับบ้าน จึงแวะกินก๋วยเตี๋ยวก่อน ระหว่างที่นั่งกิน จู่ๆ เห็นรถเก๋งของตนเองถูกชนหายไปในพริบตา คาดว่ารถซ่อมไม่ได้แน่นอน เพราะพังไม่เหลือสภาพดีเลย

ด้านตำรวจ เปิดเผยว่า เบื้องต้น รถบรรทุกพ่วงได้ทำประกันภัยเอาไว้ ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นต้องรอบริษัทประกันภัยเข้ามาเจรจาชดใช้ให้แก่ผู้เสียหายทั้งหมดอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ไทยเตรียมรับมือพายุลูกที่ 15 อีกระลอก

สถานการณ์ฝนตกหนักและน้ำป่าจากอิทธิพลพายุยางิเพิ่งผ่านพ้นไป มีคำเตือนว่าไทยต้องเตรียมรับมือพายุลูกที่ 15 อีสานตอนบน-เหนือตอนบน โดยจะมีฝนหนัก เตือนน้ำสาขาเอ่อท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำอีกระลอก

เสริมนวัตกรรมสูบน้ำ กู้เมืองหนองคาย

ท่อพญานาคซิ่ง นวัตกรรมสูบน้ำอันโด่งดังที่เคยไปช่วยภารกิจ 13 หมูป่า ติดถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ล่าสุดเดินทางถึง จ.หนองคาย กำลังสวมบทฮีโร่อีกครั้ง เพื่อช่วยกู้ตัวเมืองหนองคาย หลังจมน้ำมา 4 วัน

น้ำท่วมเชียงราย เสียหายกว่า 100 ล้าน วอนรัฐช่วยฟื้นฟู

น้ำท่วม อ.เมืองเชียงราย สร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง หลายคนสูญเสียทรัพย์สิน บางคนบ้านพังทั้งหลัง พื้นที่ทางการเกษตรถูกน้ำท่วมเสียหาย รวมทั้งโรงแรมหลายแห่งได้รับผลกระทบหนัก ส่งผลต่อธุรกิจและการท่องเที่ยวเสียหายแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เรียกร้องภาครัฐช่วยเหลือฟื้นฟู

น้ำป่าทะลักท่วมพะเยา เสียหายหนักเป็นวงกว้าง

น้ำป่าที่ทะลักท่วมชุมชนหน้ามหาวิทยาลัยพะเยา ช่วงเช้ามืดวันนี้ (17 ก.ย.) แม้น้ำท่วมเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่สร้างความเสียหายอย่างหนักเป็นบริเวณกว้าง เนื่องจากเป็นชุมชนที่เต็มไปด้วยหอพักนักศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ทันตั้งตัว ทำให้ไม่สามารถขนย้ายข้าวของได้ทัน