เร่งตรวจสอบอุบัติเหตุรถน้ำมันที่บุรีรัมย์

กรุงเทพฯ 29 ต.ค. – ก.พลังงานแจงมีมาตรฐานชัดเจนในการกำกับดูแลรถขนส่งน้ำมัน เร่งตรวจสอบสาเหตุเพลิงไหม้รุนแรง​จากเหตุรถน้ำมันชนรถบรรทุกพ่วงที่บุรีรัมย์


จากกรณีที่ได้เกิดเหตุการณ์รถบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงประสบอุบัติเหตุชนกับรถบรรทุกพ่วงที่จังหวัดบุรีรัมย์ในคืนวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมาตามที่ปรากฎในข่าวนั้น นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ขอยืนยันว่ากรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ​มีการกำกับดูแลรถบรรทุกน้ำมันที่มีมาตรฐานชัดเจนที่จะดูแลในส่วนของตัวถังน้ำมันกับอุปกรณ์การยึดติดตัวถังกับรถบรรทุกให้มีมาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งต้องมีการตรวจสอบและต่ออายุใบอนุญาตทุกปี และต้องมีการติดตั้งเครื่องบันทึกข้อมูลที่สามารถบันทึกระยะทาง เวลาและความเร็วของรถได้ตลอด 24 ชั่วโมง และผู้ประกอบกิจการต้องเก็บข้อมูลที่บันทึกไว้ให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ไม่น้อยกว่า 7 วัน

ผู้ประกอบการต้องรายงานการเกิดอุบัติเหตที่ทำให้ถังขนส่งน้ำมัน ระบบท่อ และอุปกรณ์ชำรุดเสียหายจนน้ำมันรั่วไหลหรือเกิดเพลิงไหม้ต่ออธิบดีกรมธุรกิจพลังงานภายใน 24 ชั่วโมง ส่วนตัวรถบรรทุกนั้น อยู่ในความรับผิดชอบของกรมการขนส่งทางบก


“เหตุการณ์ดังกล่าวคงต้องรอการพิสูจน์ว่าเกิดจากสาเหตุใด ซึ่งกระทรวงพลังงานมีมาตรฐานการกำกับดูแลที่ชัดเจน​ ได้สั่งการให้กรมธุรกิจพลังงานและพลังงานจังหวัดบุรีรัมย์เข้าไปดูแลรายละเอียดการเกิดอุบัติเหตุ  กำชับการดูแลรถขนส่งน้ำมันให้มีความรอบคอบมีมาตรฐานการทำงานตามกฎหมายของกรมธุรกิจพลังงาน เพื่อจะไม่ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นอีก” ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าว

นายกุลิศ​ กล่าวว่า ข้อกำหนดได้ระบุดชัดในส่วนของถังน้ำมันกับอุปกรณ์ที่ติดกับตัวรถที่ได้มาตรฐานและความปลอดภัย มีการตรวจสอบทุกปี  ด้านคนขับรถบรรทุกน้ำมันก็จะต้องมีบัตรผู้ปฏิบัติงานจากกรมธุรกิจพลังงาน ซึ่งมีการอบรมสร้างความรู้ความเข้าใจการขับขี่ปลอดภัยก่อนจึงจะสามารถขับได้ 

ส่วนของความรับผิดชอบต่อความเสียหายอันเกิดจากการประกอบกิจการรถขนส่งน้ำมัน  ประชาชนที่ได้รับผลกระทบนอกจากจะได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัย พ.ศ.2535 แล้ว ผู้ประกอบกิจการรถขนส่งน้ำมันยังได้มีการประกันภัยความรับผิดชอบ เพื่อคุ้มครองบุคคลภายนอกอันเกิดจากการประกอบกิจการดังกล่าว  ตามพระราชบัญญัติควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2542 โดยมีจำนวนเงินของประกันภัยสำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อครั้งไม่น้อยกว่า 500,000 บาท.-สำ​นักข่าว​ไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง