กรุงเทพฯ 19 ต.ค. – กฟผ.จับมือเอกชนพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนจากพืชพลังงานสุวรรณภูมิ (หญ้าเนเปียร์สายพันธุ์ใหม่) โตเร็ว ผลผลิตอย่างน้อย 60 ตัน/ไร่/ปี ตัดได้ปีละ 3 ครั้ง
น.ส.จิราพร ศิริคำ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ กฟผ.ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนจากพืชพลังงานสุวรรณภูมิ (รากแก้วพันธุ์พัฒนาใหม่) กับบริษัท ไบโอ-แพลนท์ส รอว์ แม็ททีเรียล จำกัด ความร่วมมือมีระยะเวลา 3 ปี โดยไบโอ-แพลนท์ส รอว์ จะให้การสนับสนุนท่อนพันธุ์พืชพลังงานสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นพืชในกลุ่มหญ้าเนเปียร์ที่ทางบริษัทพัฒนาสายพันธุ์
โดยจะส่งเสริมความรู้เทคโนโลยีกระบวนการปลูกและการบริหารจัดการแปลงพืชพลังงานสุวรรณภูมิ รวมทั้งการเก็บเกี่ยวด้วยวิธีการตัดสับ ซึ่งจะดำเนินการในพื้นที่ของ กฟผ. อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวมถึงชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าทับสะแก เพื่อทดสอบประสิทธิภาพพืชพลังงานดังกล่าวในการนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ และ กฟผ.จะดำเนินการศึกษา วิจัย และพัฒนาการปลูก การดูแล การเก็บเกี่ยว การตัดสับ และการทดสอบประสิทธิภาพการนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้าประเภทก๊าซชีวภาพต่อไป
“หากวิจัยจนได้ข้อมูลที่ชัดเจนแล้วก็จะคัดเลือกสายพันธุ์ดีที่สุดให้ชาวบ้านในชุมชนใกล้เคียงกับโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนทับสะแก และโรงไฟฟ้าชุมชนแม่แจ่ม อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ นำไปปลูกเพื่อจำหน่ายเป็นเชื้อเพลิงให้โรงไฟฟ้า สร้างรายได้ให้ชุมชนอีกทางหนึ่ง” น.ส.จิราพร กล่าว
นางสุรนีย์ ศิริโรจน์ กรรมการ บริษัท ไบโอ-แพลนท์ส รอว์ แม็ททีเรียล จำกัด กล่าวว่า พืชพลังงานสุวรรณภูมินี้สามารถเติบโตได้ดีในทุกสภาพดิน เป็นพืชที่โตเร็ว จากการประมาณการสามารถได้ผลผลิตอย่างน้อย 60 ตัน/ไร่/ปี และสามารถตัดได้ปีละ 3 ครั้ง จึงเป็นการประกันรายได้ให้กับเกษตรกรและเป็นการสร้างความมั่นคงด้านเชื้อเพลิง ทั้งค่าใช้จ่ายและความต่อเนื่องของเชื้อเพลิงที่ใช้ในโรงไฟฟ้าอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย