กรุงเทพฯ 2 ต.ค.- วันที่ 11 ตุลาคมนี้ คดีการเสียชีวิตปริศนาของน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ก็จะล่วงเลยถึง 5 เดือนเต็มแล้ว คดีนี้เป็นอีกคดีที่ท้าทาย ผบ.ตร.คนใหม่ เพราะก่อนขึ้นมาสู่ตำแหน่งนี้ลงพื้นที่และทุ่มเทกำลังพลและเทคโนโลยีในการคลี่คลายคดี แต่ยังจับคนร้ายไม่ได้
คดีเสียชีวิตน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบแห่งบ้านกกกอก มุกดาหารเป็นคดีแรก ที่พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงมาเปิดแถลงคดีด้วยตัวเอง หลังรับตำแหน่ง ผบ.ตร. ได้ 2 วัน โดยใช้โอกาสมอบนโยบายประจำปี 2564 แถลงข่าวของน้องชมพู่ เนื่องจากเป็นคดีที่ติดอยู่ในใจเนื่องจากยังจับกุมผู้ที่ก่อเหตุไม่ได้ แม้จะทุ่มกำลังเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงอุปกรณ์ทันสมัยที่สุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงทำคดี
ย้อนกลับไป น้องชมพู่เด็กหญิงวัย 3 ขวบ หายออกจากบ้านวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา จากนั้น 3 วัน ชาวบ้านพบศพน้องสภาพเปลือยกายในป่าภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร หลังพบศพมีการชันสูตร ศพน้องถึง 3 ครั้ง ไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย พบเพียงรอยถูกกิ่งไม้ใบไม้ขีดข่วนตามร่างกาย
จากวันที่น้องชมพู่หายออกจากบ้าน มาถึงวันนี้ที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะแถลงความคืบหน้าของคดี ก็ผ่านมาแล้วเกือบ 5 เดือน แต่ยังจับกุมผู้ที่ก่อเหตุไม่ได้
สำนักข่าวไทย ตรวจสอบกับแหล่งข่าว ยืนยันว่า วันนี้เป็นการแถลงความคืบหน้าของคดี และเจ้าหน้าที่ได้ทำไปในคดีนี้ โดยจะมีการเปิด video Presentation เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นด้วย
คดีนี้ตำรวจเก็บรวบรวมพยานหลักฐานไปแล้ว 99% เหลือ 1% เป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เช่น DNA เส้นผมและเส้นขน ซึ่งเป็นการตรวจซ้ำจากวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ
มีรายงานว่าการสืบสวนสอบสวนคดีน้องชมพู่ตำรวจไทย มีช่าวเวลาที่สำคัญ ที่เป็นโจทย์ ให้ขยายผล 38 นาที คือ 9 นาฬิกา 11 นาที ถึง 9 นาฬิกา 49 นาที ของวันที่ 11 พฤษภาคม วันที่น้องชมพู่หายตัวไป และพุ่งเป้ากลุ่มผู้ต้องสงสัยจำนวน 10-11 คน ในหมู่บ้านกกกอก ที่สามารถเข้าถึงตัวน้องชมพู่ได้ในช่วงเวลา 38 นาทีดังกล่าว ที่สำคัญผู้ที่เข้าถึงตัวน้องชมพู่ได้ ตำรวจมองว่า จะต้องเป็นบุคคลใกล้ชิด เนื่องจากน้องชมพู่จะไม่ให้คนแปลกหน้าอุ้ม ถ้าอุ้มจะส่งเสียงร้องไห้ทันที ซึ่งเขาร้องไห้สะดิ้งพี่สาวที่หลับอยู่จะต้องตื่นมาเห็น แต่นี่ไม่มีใครเห็นเหตุการหายตัวไปของน้องชมพู่
การคลี่คลายคดีนี้ ตำรวจมุ่งแสวงหาบุคคลที่พาตัวน้องชมพู่ไปยังป่าภูเหล็กไฟ และผู้ที่ทำให้เสียชีวิต ซึ่งอาจจะเป็นบุคคลเดียวกันหรือมีมากกว่า 1 คน และสาเหตุที่พุ่งเป้าว่าเป็นคนใกล้ตัวก่อเหตุ เนื่องจากศพน้องชมพู่อยู่ในสภาพนอนหงายและอยู่ริมทางเดินที่ควรต้องมาพบเจอได้ง่าย คาดว่าเป็นการจงใจอำพรางศพทิ้งไว้ ในลักษณะเปิดเผย ที่สำคัญคนร้ายยังตัดผมน้องชมพู่ไปจำนวนหนึ่ง ซึ่งบริเวณที่เกิดเหตุ พบเส้นผมน้องชมพู่ ตกอยู่จำนวน 36 เส้น ซึ่งได้เก็บมาตรวจพิสูจน์แล้ว
สำนักข่าวไทย ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวว่าการแถลงวันนี้ของ ผบ.ตร. จะไม่ใช่การแถลงเพื่อประกาศว่า ตำรวจจะพักการสอบสวนคดีน้องชมพู่ เพราะการพักคดีจะทำได้ ต่อเมื่อครบ 1 ปี ยืนยันเดินหน้าสืบสวนต่อ เพราะขณะนี้คดีก็ตีกรอบผู้ต้องสงสัยลงมาเหลือ 10-11 คนแล้ว รอแค่หลักฐานชัดเจนก็จะออกหมายจับได้.-สำนักข่าวไทย