กทม.21ก.ย.-สตช. และ อัยการ แจ้งป.ป.ท. สอบวินัยอัยการ 22 ก.ย.นี้ พร้อมออกหมายจับ”บอส อยู่วิทยา” 2 ข้อหา ดีเอสไอ เสนอ กคพ.รับคดีอาญาคดีพิเศษ ส่วนสภาทนายฯรุกสอบจริยธรรมทนายบอส
พ.ต.ท วันนพ สมจินตนากุล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท) เปิดเผยความคืบหน้า หลังจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่ง ไม่ฟ้องคดีนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ทายาทกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลัง กรณีขับรถสปอร์ตเฟอร์รารี่ชนนรถจักรยานยนต์ ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่งานปราบปราม สถานีตำรวจทองหล่อเสียชีวิต ให้ 5 หน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสิบข้อเท็จจริงข้อกฎหมายประกอบด้วย กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สภาทนายความ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) เพื่อให้พิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ว่า ดีเอสไอแจ้งว่าพิจารณาแล้วเห็นควรรับเรื่องไว้ดำเนินการ โดยได้ส่งเรื่องให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองคณะที่ 4 ดำเนินการตามข้อ 11 แห่งประกาศ กคพ. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการร้องขอ และเสนอให้ กคพ. มีมติให้คดีความผิดทางอาญาเป็นคดีพิเศษ พ.ศ. 2561
ขณะที่สภาทนายความ ได้ส่งเรื่องให้ประธานกรรมการมรรยาททนายความเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับจริยธรรมมรรยาททนายความ ตามข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ. 2529
และพ.ร.บ .สภาทนายความ พ.ศ. 2528 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ได้สรุปสำนวนสั่งฟ้องและออกหมายจับนายวรยุทธหรือบอส และส่งสำนวนให้พนักงานอัยการดำเนินการใน2 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน หรือโคคาอีน) พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการทางวินัยกับข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้อง พ.ต.ท วันนพ กล่าวอีกว่า สำหรับสำนักงานอัยการสูงสุด ได้แจ้งว่ามีคำสั่งฟ้องนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ผู้ต้องหา ในข้อหาขับรถ โดยประมาทเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 และเห็นควรสั่งฟ้องในข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคนหรือโคคาอีน) ด้วยเช่นกันนอกจากนี้ ได้ยกร่างระเบียบว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ. …. เสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการประกาศใช้ รวมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีข้าราชการอัยการ เพื่อดำเนินการทางวินัย โดยคณะกรรมการ ก.อ. จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว ในวันอังคาร ที่ 22 ก.ย นี้ ขณะที่ป.ป.ช. อยู่ระหว่างการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องต่อไป.-สำนักข่าวไทย