กรุงเทพฯ 14 ก.ย.-เลขาธิการพรรคกล้า เรียกร้องนายกฯ ขันน็อตกรมบัญชีกลางเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ ก่อนเศรษฐกิจโคม่าหนัก
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็นถึงการบริหารระบบเบิกจ่ายเงินของรัฐบาลว่าติดขัดอย่างหนัก จึงอยากให้นายกรัฐมนตรีเร่งแก้ไขก่อนเศรษฐกิจจะโคม่าหนักไปกว่านี้ โดยเฉพาะในช่วงสภาวะไร้ตัวจริงของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจเริ่มส่งผลต่อการบริหารรายจ่ายภาครัฐ โดยได้แบ่งปัญหาการใช้งบประมาณเป็น 4 ข้อ ได้แก่ การจ่ายเบี้ยผู้สูงอายุล่าช้า ทั้งที่รู้จำนวนเงินรายหัวชัดเจน รู้ล่วงหน้าการประกาศเลื่อนการเสียภาษีออกไป แต่กลับไม่สามารถบริหารยืมเงินคงคลังได้ทันกาล ทำให้ตกเบิกล่าช้า
นายอรรถวิชช์ ระบุว่า การไม่สามารถเบิกใช้งบปี 2564 ได้ทันตุลาคมนี้ ซึ่งโดยปกติ 1 ตุลาคม 2563 ต้องเริ่มใช้งบประมาณปี 2564 แล้ว แต่ต้องนำงบปีเก่าใช้ไปพลางก่อน หมายถึงเงินเดือนประจำต่าง ๆ ยังจ่ายได้ แต่งบลงทุนใหม่ต้องรอก่อน แบบนี้จะกระตุ้นเศรษฐกิจกันอย่างไร การโยกงบฯ มากอง ช่วยโควิด-19 แล้ว แต่กลับใช้เงินไม่ทันปีงบประมาณ 2563 โดยมีการออก พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่ายปี 2563 ตั้งแต่กรกฎาคม 2563 จากหน่วยราชการต่าง ๆ มาไว้ในงบกลาง เตรียมรับมือโควิด 8.8 หมื่นล้าน จนถึงปลายงบปี 2563 แล้ว ใช้ไปได้แค่ 2 หมื่นกว่าล้านเท่านั้น ซึ่งเหลือเวลาใช้เงินอีกแค่ 2 สัปดาห์ ก่อนวันที่ 30 กันยายนที่งบปี 2563 จะตกไป การเบิกจ่ายเงินที่โอนมาล่าช้าอย่างมาก และการออก พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท และ พ.ร.ก.ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 5 แสนล้าน ซึ่งโครงการใหม่เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ไม่เด่นชัด และผู้ประกอบการที่เดือดร้อนจริงยังเข้าถึงสินเชื่อได้ยาก
นายอรรถวิชช์ ระบุอีกว่า เศรษฐกิจจะเดินไปได้ จีดีพีจะขึ้น ต้องติดเครื่องยนต์ 4 ตัว
คือ เพิ่มการบริโภค เพิ่มการลงทุน เร่งรายจ่ายภาครัฐ และส่งออกดี ได้ดุลย์การค้า
แต่ขณะนี้ เราเจอทั้งวิกฤติเศรษฐกิจจากโรคระบาดโควิด-19 และสงครามการค้าจีน-สหรัฐ เครื่องยนต์สำคัญที่ติดง่ายที่สุด คือ การเร่งรายจ่ายภาครัฐ ซึ่งก็คือเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ เร่งจ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้ถึงมือประชาชนผู้เดือดร้อนและผู้ประกอบการเร็วที่สุด
“แต่อาการวันนี้กลายเป็นว่ามีเงิน แต่เงินคาท่อ บริหารไม่ได้ อาการนี้ไม่ปกติ ไม่มีรัฐมนตรีคลังติดตามใกล้ชิด ขณะที่ระบบราชการเองไม่ได้ถูกออกแบบให้ทันต่อเหตุการณ์ในการรับวิกฤติ ระหว่างนี้ขอความกรุณาท่านนายกฯ เร่งขันน็อตเรื่องการเบิกจ่ายที่กรมบัญชีกลางของกระทรวงการคลังไปก่อน มิฉะนั้นเศรษฐกิจจะโคม่าหนัก” นายอรรถวิชช์ ระบุ.-สำนักข่าวไทย