ภูเก็ต 29 ส.ค.- การออกมาเปิดเผยของ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ถึงแผนการผลักดันให้ จ.ภูเก็ต เป็นพื้นที่นำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศ โดยระบุว่า อาจเริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคม ทำให้หลายคนออกมาแสดงความเห็นอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะประเด็นโควิด-19 ที่ทั่วโลกยังเผชิญกับการแพร่ระบาด
ความเห็นต่างมุมมองที่มีต่อ “ภูเก็ตโมเดล” หรือแผนการผลักดันให้ภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่องของประเทศไทย ในการเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้กลับเข้ามาท่องเที่ยวได้ หลังจากประเทศไทยปิดรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ติดต่อกันมานานหลายเดือน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ตระบุว่า ภูเก็ตโมเดลถูกจัดทำขึ้นตามความคิดเห็นที่ตกผลึกของภาคเอกชนจำนวน 12 องค์กร เสนอไปยังรัฐบาล เพื่อต้องการฟื้นฟูการท่องเที่ยวของภูเก็ต ซึ่งปัจจุบันกำลังประสบปัญหาซบเซาอย่างหนัก จนทำให้มีผู้ว่างงานกว่า 100,000 อัตรา
โดยมีข้อแม้ว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามาเที่ยวในภูเก็ต ต้องปฏิบัติตามมาตรการ 5T อย่างเคร่งครัด จะต้องได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทันทีที่เข้าสู่สนามบินภูเก็ต หากพบเชื้อ ก็จะต้องเข้ารับการรักษาตามขั้นตอน แต่หากไม่พบ จะต้องกักตัว 14 วันภายในโรงแรม ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่รัฐกำหนดเท่านั้น ซึ่งจะต้องจองล่วงหน้าไว้ก่อนการเดินทางมายังประเทศไทย เมื่อครบกำหนด 14 วัน จึงจะออกไปท่องเที่ยวยังที่อื่นๆ รวมถึงต่างจังหวัดได้ตามปกติ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องใช้ให้ App ไทยชนะ เพื่อให้ทางการไทยติดตามตัวได้ตลอดระยะเวลา
ขณะที่กลุ่มตัวแทนของนักธุรกิจ SME ในภูเก็ต ระบุว่า หากรัฐบาลตัดสินใจเลือกภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่อง ตามแผนภูเก็ตโมเดลก็ไม่ขัดข้อง แต่ไม่เห็นด้วย หากจะเริ่มใน 1 ตุลาคมนี้ เพราะยังเร็วเกินไป แนะนำว่าควรเปิดเมื่อพร้อม และเมื่อมั่นใจว่านักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาจะสามารถปฏิบัติได้ตามมาตรการ 5T ที่กำหนดไว้เท่านั้น ไม่เช่นนั้นไม่เพียงภูเก็ตโมเดลจะไม่ตอบโจทย์ตามที่หวัง แต่จะกลายเป็นหายนะครั้งใหญ่ของคนในพื้นที่เอง หากมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก 2
เมื่อภูเก็ตโมเดลถูกริเริ่มขึ้น เพราะต้องการแก้ปัญหาบรรเทาความเดือดร้อนด้านปากท้องของคนในภูเก็ต ซึ่งเกี่ยวพันกับการท่องเที่ยวเป็นหลัก แต่ในขณะเดียวกัน ภูเก็ตโมเดลก็กำลังสร้างความวิตกกังวลให้ประชาชนในพื้นที่ภูเก็ตเช่นกันว่าจะเป็นสาเหตุ สำคัญที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 2 ที่รุนแรงกว่าเดิมหรือไม่ จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่า ท้ายที่สุดรัฐบาลจะสนองตอบต่อแผนภูเก็ตโมเดลนี้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย