คุมช่างแอร์โหดทำแผนแทงสาวสวยไม่สะทกสะท้าน

นครราชสีมา 13 ส.ค.-ตำรวจคุมตัวช่างแอร์แทงสาวสวยเสียชีวิตคาบ้านหรูตัวเมืองโคราช ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่สะทกสะท้าน อ้างก่อเหตุเพราะต้องการชิงทรัพย์ พบประวัติติดคุกมาแล้ว 4 ครั้ง ในรอบ 4 ปี


กรณีหญิงน.ส.ณัฐริกา ชิบาฮาระ อายุ 29 ปีสาวสวยหน้าตาดีถูกคนร้ายบุกใช้อาวุธมีดแทงเสียชีวิตคาบ้านพักหรู ในต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา บริเวณห้องนอนชั้น 2 คืบหน้าล่าสุดตำรวจสามารถจตับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้ว โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานสำคัญ ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในบ้านของ น.ส.ณัฐริกา บันทึกภาพขณะ น.ส.ณัฐริกา ออกไปเปิดประตูให้คนร้ายเข้ามาภายในบ้าน ก่อนใช้อาวุธมีดจี้เจ้าของบ้านเพื่อต้องการทรัพย์สิน กระทั่งก่อเหตุใช้มีดแทงเจ้าของบ้านเสียชีวิตคาที่นอน

โดยหลังก่อเหตุตำรวจสืบสวนภูธรภาค 3 พร้อมตำรวจสืบสวนภูธร จ.นครราชสีมา ใช้เวลากว่า 40 ชั่วโมง ติดตามจับกุมนายธีรพล ด้วงกระโทก อายุ 26 ปี ช่างซ่อมแอร์ ผู้ต้องหาได้สำเร็จ ขณะกำลังแอบไปซ่อนตัวในกระท่อมกลางทุ่งนา บ้านหนองสะแก ต.แหลมทอง อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา สารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง สาเหตุเพื่อต้องการชิงทรัพย์


พลตำรวจตรี อัคราเดช พิมลศรี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วย พลตำรวจตรี สุจินต์ นิจพานิชย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และชุดสืบสวน ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหารายนี้ โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ทำงานเป็นลูกจ้างร้านซ่อมแอร์ใกล้เคียงกับบ้านผู้ตาย และเคยเข้าไปล้างแอร์ในบ้านผู้ตาย 4-5 ครั้ง ก่อนเกิดเหตุออกอุบายไปเรียกผู้ตายหน้าบ้านพัก ทำทีบอกว่า ลืมอุปกรณ์ซ่อมแอร์ทิ้งไว้ในบ้าน และขอเข้าไปเก็บอุปกรณ์ซ่อมแอร์ ผู้ตายหลงเชื่อจึงเปิดประตูให้เข้าไปภายในบ้าน และใช้อาวุธมีดที่พกเตรียมมา จี้ที่เอวของผู้ตายเพื่อหวังชิงทรัพย์ โดยพาผู้ตายขึ้นไปค้นหาทรัพย์สินบนห้องนอน แต่ผู้ตายบอกไม่มีเงินสด จึงให้โอนเงินทางโทรศัพท์เข้าบัญชี 10,000 บาท แต่ระหว่างนั้นผู้ตายมองออกไปเห็นเพื่อนบ้าน และตะโกนขอความช่วยเหลือ จึงใช้มีดจ้วงแทงที่ลำคอ 1 ครั้ง จนเสียชีวิตคาที่นอน ก่อนขโมยกุญแจรถยนต์ และโทรศัพท์ผู้ตายหลบหนี

ทั้งนี้เผยสาเหตุที่ลงมือเพราะลูกค้าร้านแอร์ลดลง มีปัญหาค่าใช้จ่ายในครอบครัว พร้อมอ้างไม่ได้ตั้งใจฆ่าผู้ตาย แต่ตกใจที่ผู้ตายตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ ระหว่างหลบหนีได้เบิกเงิน 10,000 บาท มาใช้จ่ายจนหมด โดยหนีไปกบดานที่บ้านพ่อใน อ.หนองบุญมาก กระทั่งถูกตำรวจตามจับกุมได้ในที่สุด

ตำรวจได้แจ้งดำเนินคดีกับนายธีรพลในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ตามที่ศาลจังหวัดนครราชสีมาอนุมัติหมายจับ ส่วนข้อหาชิงทรัพย์ และข้อหาอื่นๆ ตำรวจจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน และจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในภายหลัง อย่างไรก็ตามเมื่อตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบว่า เคยมีพฤติกรรมถูกจำคุกดำเนินคดีมาแล้ว 4 ครั้ง ในรอบ 4 ปี ทั้งคดีลักทรัพย์ ทำร้ายร่างกายผู้อื่น และเสพยาเสพติด


หลังจากนั้นตำรวจคุมตัวนายธีรพล ผุ้ต้องหา ไปค้นหาอาวุธมีดของกลางที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งคนร้ายโยนทิ้งในป่าละเมาะข้างทางห่างจากบ้านหลังเกิดเหตุ 1 กิโลเมตร ก่อนควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านพักหลังที่ก่อเหตุ ท่ามกลางชาวบ้าน และญาติพี่น้องผู้เสียชีวิตกว่า 50 คน มาเฝ้าสังเกตการณ์ พากันส่งเสียงสาปแช่งคนร้าย เจ้าหน้าที่ต้องนำเชือกมาวางแนวกั้น พร้อมกับผู้คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ถอยออกห่าง หวั่นเกิดเหตุการณ์รุมประชาทัณฑ์ชุลมุนวุ่นวาย ทำให้ต้องใช้เวลาทำแผนแค่ 5 นาทีเท่านั้น โดยพาคนร้ายไปชี้จุดก่อเหตุ ตั้งแต่เดินเข้าประตูหน้าบ้าน และพาผู้เสียชีวิตไปในห้องนอนชั้น 2 และขั้นตอนการลงมือก่อเหตุ ก่อนพามาชี้รถจักรยานยนต์พาหนะที่ใช้หลบหนี ก่อนควบคุมตัวขึ้นรถกลับด้วยความรวดเร็ว

ขณะเดียวกันจากการสังเกตของผู้สื่อข่าวพบว่า ขณะทำแผนนายธีรพล คนร้าย มีสีหน้าเรียบเฉย ไม่สะทกสะท้านกับความผิดที่ทำลงไป แต่ยอมรับว่า หากผู้ตายไม่ตะโกนร้องให้คนช่วย ก็คงไม่เกิดเหตุการณ์ใช้มีดแทงจนเสียชีวิต ยืนยันที่ทำไปเพราะต้องการแค่ชิงทรัพย์ ไม่ได้หวังข่มขืนแต่อย่างใด

ส่วนบรรยากาศที่ต.โนนสมบูรณ์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา บ้านเกิดของน.ส.ณัฐริกา ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานบำเพ็ญกุศล เต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีพี่น้องและเพื่อนบ้านช่วยกันเตรียมงาน นางทัศนันท์ ภูษา แม่ของผู้เสียชีวิต นั่งร้องไห้อยู่หน้าศพของบุตรสาวด้วยความเสียใจ พร้อมกับบอกว่า ลูกสาวเป็นลูกที่กตัญญูมาก เป็นเสาหลักของครอบครัว หาเงินส่งทางบ้านและส่งเสียน้องเรียน ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากถามคนร้ายว่าอยากได้อะไร ทำไมไม่เอาไป ทำไมต้องมาฆ่าลูกสาวด้วย ตนไม่มีทางที่จะให้อภัย และไม่อโหสิกรรมแก่ผู้ที่ก่อเหตุอย่างเด็ดขาด แม้แต่หน้าก็ไม่อยากเห็น อยากให้ตายตกนรกหมกไหม้กับบาปกรรมที่ทำไว้

ทั้งนี้ร่าง ของน.ส.ณัฐริกา ชิบาฮาระ จะตั้งบุญเพ็ญกุศลอยู่ที่บ้านเกิดเป็นเวลา 3 วัน และจะมีพิธีฌาปนกิจในวันเสาร์ที่ 15 สิงหาคมนี้ ที่วัดโนนสมบูรณ์ บ้านบ่อลิง ต.โนนสมบูรณ์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”