ก.คลัง 28 พ.ย. – นายพรชัย ฐีระเวช รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สศค. เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้เตรียมหารือกับ 3 แบงก์รัฐ ทั้งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย หลังจาก ครม.เห็นชอบมาตรการเพิ่มรายได้ให้ผู้มีรายได้น้อยในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อดูแลค่าครองชีพให้กับผู้มีรายได้น้อยนอกภาคเกษตร เพื่อรับเงินช่วยเหลือจาก 1,500-3,000 บาทต่อราย จำนวน 5.4 ล้านราย วงเงิน 12,750 ล้านบาท และเกษตรกรผู้มีรายได้น้อย 2.9 ล้านราย วงเงิน 6,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ คาดว่าจะสรุปแนวทางการโอนเงินให้ผู้มีรายได้น้อยวันพรุ่งนี้ (29 พ.ย.) เพื่อเริ่มโอนเงินช่วยเหลือวันที่ 1 ธันวาคม 2559 จึงแนะนำให้ผู้มีรายได้น้อยตรวจสอบรายชื่อว่าผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติหรือไม่ ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2559 บนเว็บไซต์ www.E-Payment.go.th ยอมรับว่าเงินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย การช่วยเหลือชาวนาผ่านมาตรการสินเชื่อชะลอการขายทั้งค่าเก็บเกี่ยว ค่าฝากข้าวในยุ้งฉาง การเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐ จะมีส่วนช่วยเพิ่มกำลังซื้อปลายปี เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้จีดีพีของประเทศปีนี้ขยายตัวร้อยละ 3.3 ตามเป้าหมาย
สำหรับตัวเลขการส่งออกเดือนตุลาคมที่กระทรวงพาณิชย์แถลงติดลบร้อยละ 4.2 นั้น กระทรงการคลังยังคาดว่าทั้งปีตัวเลขการส่งออกติดลบร้อยละ 0.5 เพราะยังส่งออกได้ดีในหลายประเทศ
ส่วนภาวะเศรษฐกิจการคลังเดือนตุลาคม 2559 เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการใช้จ่ายยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากการบริโภคภาคเอกชนยังคงขยายตัว โดยปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ยังขยายตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 3.1 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากรายได้เกษตรกรที่แท้จริงขยายตัวที่ร้อยละ 3.8 นอกจากนี้ ยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม จากการใช้จ่ายภายในประเทศขยายตัวร้อยละ 1.1 ขณะที่การใช้จ่ายของรัฐบาล เบิกจ่ายได้จำนวน 4.354 แสนล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 16.3 จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเฉพาะการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุนจากงบประมาณรายจ่ายปีปัจจุบันที่ขยายตัวร้อยละ 17.5 และร้อยละ 17.0 ตามลำดับ การเบิกจ่ายทั้ง 2 ด้านเดือนแรกของปีงบประมาณจะมีส่วนช่วยฟื้นเศรษฐกิจได้ดีขึ้น. – สำนักข่าวไทย