กรุงเทพฯ 31 ก.ค. – ครม.ให้ กฟผ.ซื้อปาล์มอีกแสนตัน กฟผ. รอ รมว.พลังงานคนใหม่ ช่วยชี้ขาดใช้เงินส่วนใดซื้อหลังจากซื้อไปแล้ว 3.6 แสนตัน ค้างจ่าย 2.2 พันล้านบาท ส่วนนำเข้าแอลเอ็นจีรอบใหม่ยอมรับ.. สะดุดโควิด
นายธวัชชัย จักรไพศาล รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ.ได้แจ้งไปยังกระทรวงพลังงาน และคงรอ รมว.พลังงานคนใหม่ ตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ(ซีพีโอ)เพื่อนำไปเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งตามมติ ครม.14ก.ค.63 ให้ กฟผ.พิจารณาจัดซื้อเพิ่มอีก 1 แสนตัน เพื่อดูดซับจากตลาด รวมทั้ง รอการตัดสินใจเรื่องการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ราคาตลาดจร (Spot LNG) ซึ่งเดิม กฟผ.ขออนุมัตินำเข้าเพิ่มเติมในปีนี้อีก นอกเหนือจากที่นำร่องทดสอบนำเข้ามาแล้ว 2 ลำ แต่ด้วยความต้องการไฟฟ้าลดลง จากผลกระทบเศรษฐกิจจากโควิด -19 ดังนั้น ปีนี้คงไม่สามารถนำเข้าได้แล้ว และคงเสนอขอนำเข้าในปีถัดไป โดยเดิมนั้น กฟผ. ขอนำเข้าใหม่ ปี 63-65 ในปริมาณ ปีละ 0.6 ล้านตันต่อปี, 1.9 ล้านตันต่อปีและ 1.5ล้านตันต่อปี ตามลำดับ
ทั้งนี้ กฟผ. ได้แจ้ง ไปยังกระทรวงพลังงานถึงผลดำเนินงานการซื้อซีพีโอตามนโยบายรัฐบาลที่ผ่านมาเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรซื้อรวม 3.6 แสนตัน (ปี62-63) ใช้เงิน กฟผ. จัดซื้อ รวม กว่า 5พันล้านบาท โดยได้เงินคืนมาจากรัฐและอื่นๆกว่า 2 พันล้านบาท โดยเหลือ อีก 2.2 พันล้านบาท ที่รัฐยังไม่จัดสรรให้ ซึ่ง กฟผ. ก็ขอให้เร่งทำความชัดเจนก่อนดำเนินการจัดซื้อใหม่ ในอนาคต โดยที่ผ่านมานั้น เงินที่ กฟผ ได้รับมาแล้วประกอบไปด้วย งบประมาณภาครัฐ 525 ล้านบาท, เงินบัญชี ธุรกรรมนโยบายรัฐ (Public Service Account: PSA ) ได้รับอนุมัติกรอบวงเงิน 1,200ล้านบาท แต่ล่าสุดได้อนุมัติเพียง 829 ล้านบาท, การนำเงินไปคำนวณรวมในค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ(FT) 1,000ล้านบาท ซึ่งตรงนี้ไม่สามารถคิดเพิ่มได้ เพราะคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติไม่ให้นำมาเป็นต้นทุนค่าไฟฟ้าอีกเพราะ ต้นทุนเผาปาล์มสูงกว่าค่าก๊าซธรรมชาติ
สำหรับการรับซื้อซีพีโอครั้งล่าสุด 37,550 ตัน ใช้ราคากลางที่กรมการค้าภายในกำหนด 23.25บาท/กก. มีผู้ชนะประมูล 8 ราย จากจำนวนผู้ยื่นเสนอราคา 23 ราย เมื่อบวกรวมค่าขนส่ง ที่นำมาใช้ที่โรงไฟฟ้าบางปะกง อีก90 สต./กก.ทำให้ใช้งบรวมรอบนี้อยู่ที่ 900 ล้านบาท ก็ทำให้ กฟผ.ซื้อปาล์มรวม 3.6แสนตัน . – สำนักข่าวไทย