ปักกิ่ง 24 ก.ค.- นักวิเคราะห์คาดว่า เศรษฐกิจจีนปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 2.2 ดีขึ้นจากเดือนเมษายนที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 1.8 แต่ยังเผชิญความเสี่ยงหลักจากความต้องการโลกซบเซาและความสัมพันธ์กับสหรัฐตึงครียดขึ้น
รอยเตอร์สอบถามความเห็นนักวิเคราะห์ 42 คน ที่คาดว่า เศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ เพราะทางการใช้มาตรการกระตุ้นเพื่อบรรเทาความเสียหายจากวิกฤตโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แพร่ระบาด อย่างไรก็ดี การขยายตัวร้อยละ 2.2 จะถือว่าต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2519 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของการปฏิวัติวัฒนธรรมในสมัยประธานเหมา เจ๋อตุง ไตรมาสสองของปีนี้เศรษฐกิจจีนขยายตัวร้อยละ 3.2 จากปีก่อน หลังจากหดตัวมากเป็นประวัติการณ์ถึงร้อยละ 6.8 ในไตรมาสแรกของปี เพราะไวรัสโคโรนาและมาตรการปิดเมืองทำให้เศรษฐกิจส่วนใหญ่ของประเทศหยุดนิ่ง
นักวิเคราะห์เตือนว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนจะพึ่งพาการลงทุนที่นำโดยรัฐเป็นหลัก เพราะการบริโภคยังคงซบเซา ภาคการผลิตและการก่อสร้างฟื้นตัวค่อนข้างเร็ว แต่ภาคบริการยังอ่อนแรงอยู่ ทั้งการจัดเลี้ยง โรงแรมที่พัก และความบันเทิง เพราะคนกังวลว่าโควิด-29 จะกลับมาระบาดใหม่และระมัดระวังการจับจ่าย ขณะที่การส่งออกดีขึ้นเพราะความต้องการอุปกรณ์ทางการแพทย์จำนวนมาก แต่ยังคงมีความไม่แน่นอนรออยู่จากการที่แต่ละประเทศเปิดประเทศไม่เท่ากัน การใช้นโยบายเป็นมิตรน้อยลง การขาดแรงขับเคลื่อนด้านบริโภคและบริการ และความไม่แน่นอนในตลาดการจ้างงาน นอกจากนี้ความตึงเครียดกับสหรัฐที่รุนแรงขึ้น แรงกดดันเรื่องให้แยกห่วงโซ่อุปทาน และแนวโน้มกำไรลดลงอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของธุรกิจ ทำให้กิจกรรมการค้าและการผลิตลดลง.-สำนักข่าวไทย