นนทบุรี 21 ก.ค. – อธิบดีกรมการค้าภายในเตรียมใช้กฎหมายแก้หมูแพง เบื้องต้นขอความร่วมมือผู้เลี้ยง-ผู้ค้าขายหมูหน้าฟาร์มไม่เกินกิโลกรัมละ 80 บาท หมูเนื้อเขียงกิโลกรัมละ 150 บาท และเนื้อสันกิโลกรัมละ 160 บาท หากราคายังไม่ลดลงเตรียมใช้กฎหมายบังคับแน่
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า จากสถานการณ์ราคาหมูที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยราคาหมูเป็นสูงกว่ากิโลกรัมละ 80 บาท ส่วนเนื้อหมูสูงกว่าราคา 160 บาท ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคนั้น ราคาหมูที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นผลจากโรค ASF หรือโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมูที่ระบาดในประเทศเพื่อนบ้านและจีน ซึ่งเป็นตลาดนำเข้าหลัก ทำให้ความต้องการนำเข้าเพิ่มขึ้น จากเดิมส่งออกวันละ 5,000-6,000 ตัวต่อวัน เป็นกว่า 10,000 ตัวต่อวัน
ทั้งนี้ มาตรการคลายล็อกดาวน์ทำให้ธุรกิจร้านอาหารกลับมาให้บริการเพิ่มขึ้น รวมทั้งสภาพอากาศร้อนและแล้งนาน ทำให้หมูโตช้าน้ำหนักน้อยทำให้ผลผลิตลด ส่วนการเพิ่มผลผลิตต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3-6 เดือน เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว กรมการค้าภายในได้ตกลงร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติและผู้ค้ากำหนดราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มกิโลกรัมละไม่เกิน 80 บาท ส่วนหมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท และหมูเนื้อสัน กิโลกรัมละ 160 บาท หากสถานการณ์ราคายังไม่คลี่คลายจะใช้กฎหมายบังคับ โดยเสนอคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ หรือ กกร.กำหนดราคาจำหน่ายสูงสุดและจำกัดการส่งออก
นอกจากนี้ จะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบราคาตามตลาดสดทั่วไปและทำความเข้าใจกับผู้ค้าให้ขายเนื้อหมูสอดคล้องกับราคาหมูเป็น และจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ตลาดหลายแห่งยังขายราคาสูง เช่น ตลาดพรานนก ตลาดรามอินทรา ดาวคะนอง ขายกิโลกรัมละ 170-175 บาท จึงขอความร่วมมือให้ขายตามราคาที่กำหนด
ทั้งนี้ หากเพิกเฉยจะมีโทษตามกฎหมาย มีการโก่งราคาโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท และหากขายเกินป้ายราคามีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากผู้บริโภคพบว่ามีการขายเกินราคา สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1569 และวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.) กรมการค้าภายในจะร่วมกับห้างแม็คโครเปิดขายเนื้อหมูราคาประหยัดกิโลกรัมละ 130 บาท เพื่อลดค่าครองชีพประชาชนในขณะนี้.-สำนักข่าวไทย