“วิรไท” ชี้เศรษฐกิจไทยฟื้นแบบ “เครื่องหมายถูกแต่หางยาว”

กรุงเทพฯ  20 ก.ค. – ผู้ว่าฯ ธปท.ยืนยันเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง ไม่จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจาก ไอเอ็มเอฟเหมือนวิกฤติต้มยำกุ้งปี 40 พร้อมมองเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวแบบเครื่องหมายถูกแต่หางยาว หลังเศรษฐกิจผ่านจุดต่ำสุดแล้วในไตรมาส 2 


นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงานสัมมนาวิชาการธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาค ประจำปี 2563 หัวข้อ’ ‘ชวนคุยชวนคิด ปรับวิถีธุรกิจท้องถิ่นในโลกใหม่อย่างยั่งยืน” ว่า เศรษฐกิจไทยจุดต่ำสุดอยู่ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการล็อกดาวน์กิจกรรมทางเศรษฐกิจและจะเริ่มฟื้นตัวได้ในไตรมาส 3 และกลับสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิดโควิดปลายปี 2564 โดยเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวแบบเครื่องหมายถูกแต่หางยาว เพราะไทยพึ่งพาเศรษฐกิจจากต่างประเทศสูง โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่คาดว่าอีกหลายปีกว่าจะมีตัวเลขนักท่องเที่ยวเข้าไทยถึง 40 ล้านคน รวมทั้งภาคการส่งออกที่คาดว่าจะใช้เวลานานกว่าจะกลับมาอยู่ในระดับเดียวกับก่อนเกิดโควิด 

ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ยอมรับว่าภาพเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบรุนแรงไม่แพ้วิกฤติปี 2540 แต่ในส่วนของเศรษฐกิจมหภาคถือว่ามีความเข้มแข็งกว่าตอนวิกฤติปี 2540 โดยเฉพาะระบบสถาบันการเงินไทยที่มีสถานะเงินกองทุน มีสภาพคล่อง มีกันชนระดับสูง และไทยมีหนี้ต่างประเทศต่ำ ทำให้ธนาคารกลางสามารถใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อพยุงเศรษฐกิจไทยได้  พร้อมยืนยันไทยไม่จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เหมือนตอนวิกฤติปี 2540 


พร้อมแสดงความเป็นห่วงเรื่องปัญหาการว่างงานที่สุด เพราะโควิด-19 ส่งผลกระทบแรงในภาคบริการและภาคการผลิต มองแม้โควิด-19 คลี่คลาย เชื่อว่าหลายคนจะไม่สามารถกลับเข้าสู่ตลาดแรงงานในโลกยุคหลังโควิดได้ เพราะปัจจุบันทั่วโลกและไทยมีกำลังการผลิตส่วนเกินสูง และภาคการผลิตจะถูกเปลี่ยนเป็นการผลิตที่เน้นคุณภาพ มีการนำหุ่นยนต์เข้ามาใช้แทนคนมากขึ้น ขณะที่แรงงานภาคบริการและนักท่องเที่ยวกว่าจะกลับมาต้องใช้เวลาหลายปี แรงงานอายุมากขึ้น รวมทั้งเด็กจบใหม่ปีนี้หากยังหางานไม่ได้ภายใน 1-2 ปี ก็จะมีเด็กจบใหม่ใน 2 ปีข้างหน้ามาแทนที่ 

ทั้งนี้ ยอมรับว่าหลังโควิดตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล)  ของไทยจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่จะไม่สูงแบบก้าวกระโดด จากการใช้มาตรการพักชำระหนี้และปรับโครงสร้างหนี้ แนะปรับตัวสร้างภูมิคุ้มกันผ่านการออม เพราะเชื่อว่าแม้ผ่านวิกฤติโควิด-19 แล้ว ยังต้องเผชิญความเสี่ยงและความผันผวนอีกมากในอนาคต

ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติให้สัมภาษณ์ภายหลังถึงกรณีเงินทุนไหลออก  โดยระบุว่าไม่น่ากังวล เพราะไทยยังมีกันชนที่แข็งแรง เพราะมองว่าปีนี้ไทยยังเกินดุลบัญชีเดินสะพัดแม้จะลดลงจากปีก่อนก็ตาม นอกจากนี้สภาพคล่องของระบบสถาบันการเงินไทยยังอยู่ในระดับสูง ดังนั้น แม้มีเงินไหลออกก็จะไม่กระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศ พร้อมเตือนระวังความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนของโลกหลังโควิด-19 ที่เกิดสภาพคล่องสูงหลังหลายประเทศอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด แนะผู้ส่งออกทำประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อป้องกันความเสี่ยงในอนาคต.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ