กทม. 1 ก.ค. – เปิดภาคเรียนวันแรก โรงเรียนต้องเข้มงวดเรื่องมาตรด้านสุขอนามัย รวมถึงปรับการเรียนการสอนใหม่ ตั้งแต่ให้นักเรียนสลับวันมาเรียนแบบสัปดาห์เว้นสัปดาห์ แต่ก็พบว่า การเว้นระยะห่างในเด็กอนุบาลยังทำได้ยาก จึงต้องค่อยๆ สอน และทำความเข้าใจ
พื้นที่หน้าเสาธงของโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) หากเป็นวันเปิดเทอมในช่วงปกติ ที่นี่จะเต็มไปด้วยนักเรียนที่มาเข้าแถวกว่า 4,000 คน แต่ในช่วงที่ยังต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จึงต้องปรับเปลี่ยนกิจกรรมหน้าเสาธงใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่ให้เข้าแถวแบบเว้นระยะห่าง และแบ่งพื้นที่เข้าแถวแยกเป็นระดับชั้นอย่างชัดเจน
โรงเรียนถือเป็นสถานที่ที่มีการรวมกลุ่มของเด็กเป็นจำนวนมาก จึงต้องมีมาตรการด้านสุขอนามัยอย่างเข้มงวด อย่างที่นี่จะจำกัดนักเรียนให้ไม่เกิน 20 คน ต่อ 1 ห้อง
การต้องจำกัดนักจำนวนเรียนเพื่อรักษาระยะห่างตามที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดไว้ ทำให้ต้องแบ่งจำนวนนักเรียนเป็น 2 กลุ่ม คือ เลขคู่ และเลขคี่ สลับกันมาเรียน ในห้องเรียนสัปดาห์ เว้นสัปดาห์ ในช่วงที่ไม่ได้เรียนในห้อง จะใช้วิธีเรียนออนไลน์ ผ่านคลิปวิดีโอที่ครูผู้สอนจัดทำขึ้น ตามตารางเรียนที่กำหนดไว้
ผอ.โรงเรียนบดินทรเดชา ยังเน้นย้ำก่อนจะเข้าโรงเรียนนักเรียนทุกคนต้องผ่านการคัดกรอง ด้วยการวัดอุณหภูมิ จะต้องไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียล หากพบจะให้ผู้ปกครองรับกลับทันที ส่วนกิจกรรมบางอย่าง เช่น การเล่นกีฬา จำเป็นต้องงด รวมถึงสอบกลางภาคปีนี้ ที่ตัดสินใจไม่จัดสอบ แต่เปลี่ยนเป็นทำงานเก็บคะแนนแทน เพื่อหลีกเลี่ยงการรวมตัวของนักเรียนหลายพันคน
ส่วนที่โรงเรียนอนุบาลแสงโสมสัมมากร มีนักเรียนระดับอนุบาล และเตรียมอนุบาลกว่า 200 คน ต้องสลับกันมาเรียนในห้องเช่นกัน เพื่อให้จำนวนนักเรียนต่อห้องไม่เกิน 20 คน เพราะต้องนั่งโต๊ะละ 1 คน และเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1.50 เมตร ทำให้กิจกรรมที่จะได้มีส่วนร่วม และลงมือปฏิบัติ ต้องเปลี่ยนเป็นนั่งเรียนบนโต๊ะแทนไปก่อนในช่วงนี้
ผู้บริหารโรงเรียนอนุบาลแสงโสมสัมมากร ยอมรับว่า การเว้นระยะห่างในเด็กทำได้ยาก โดยเฉพาะเด็กอนุบาล จึงต้องค่อยๆ สอน และดูแลอย่างใกล้ชิด
แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศแล้ว แต่มาตรการด้านความปลอดภัยช่วงเปิดภาคเรียนยังต้องเข้มงวด เพราะกระทรวงสาธารณสุขรวบรวมข้อมูลการระบาดของโควิด-19 ในเด็กไทยพบว่า มีเด็กอายุ 10-19 ปี เป็นผู้ติดเชื้อร้อยละ 3 และเป็นการติดเชื้อจากสมาชิกในครอบครัว ส่วนใหญ่เด็กจะมีอาการไม่รุนแรง และไม่แสดงอาการ เมื่อมาโรงเรียน และใช้เวลาร่วมกันกับเพื่อนวันละ 5-7 ชั่วโมง ซึ่งนานกว่าสถานที่อื่น จึงมีความเสี่ยงอาจนำเชื้อไปแพร่ต่อในกลุ่มเพื่อน และคนในครอบครัวได้.- สำนักข่าวไทย