ปลัด สธ.ย้ำสถานการณ์โควิดไม่ได้รุนแรงกว่าเดิม

สธ. 29 พ.ค.- ปลัด สธ. ย้ำสถานการณ์โควิดไม่ได้รุนแรงกว่าเดิม ยังเป็นเชื้อ XBB.1.16 เพียงแต่พบกลุ่มคนโนวิ ที่ไม่เคยติดเชื้อโควิดมาก่อน ในรอบนี้ติดมากขึ้น และมีผู้ป่วยบางครั้งติดเชื้อรวม 3 ครั้ง ย้ำยา-เวชภัณฑ์-วัคซีนมีพร้อม ขอให้คนทยอยไปรับวัคซีน เพราะคนสูงอายุ 60 ปี เสี่ยงติดเชื้อมากกว่าคนปกติ 2 เท่า ส่วนอัตราครองเตียงทั่วประเทศ 22% ไม่ได้มากกว่าเดิม


นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังประชุมติดตามสถานการณ์โควิด-19 ว่า หลังจากกระทรวงสาธารณสุขได้ปรับให้โควิด-19 เป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง และยกเลิกภาวะฉุกเฉินในระดับนานาชาติ แต่ไม่ได้หมายความโควิดหมดไปแล้วจากโลกนี้ เพียงแค่การติดเชื้อโควิดลดลงเท่านั้น ยังคงต้องติดตามเฝ้าระวังต่อไป และเป็นไปตามคาดการณ์ที่ว่าอัตราการป่วยติดเชื้อจะสูงขึ้น หลังเทศกาลสงกรานต์ โดยข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา จำนวนผู้เสียชีวิตในสัปดาห์นี้ลดลง จากเดิม 64 คน เหลือ 42 คน โดยผู้เสียชีวิตเป็นกลุ่ม 608 ได้แก่ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ พร้อมย้ำว่าเมื่อสอบทราบข้อมูลของผู้เสียชีวิต ส่วนใหญ่รับวัคซีนมานาน ไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น ซึ่งข้อมูลพบว่า คนสูงอายุ 60 ปี ขึ้นไป หากติดเชื้อโควิด ยังมีอาการเสี่ยงเสียชีวิตมากกว่าคนทั่วไป 2 เท่า, ถ้าอายุ 70 ปีขึ้น มีโอกาสเสียชีวิต 4 เท่า ดังนั้น หากใครได้รับวัคซีนนานเกิน 6 เดือน แล้วควรไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้น ลูกหลานไม่ต้องกังวลถึงอันตราย ควรรีบพาคนในครอบครัวไปรับวัคซีน และหากตัวเองมีอาการป่วยทางเดินหายใจ ควรสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันผู้สูงอายุรับเชื้อ

นพ.โอภาส กล่าวว่า ส่วนเชื้อโควิด-19 จากการติดตามของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่าเป็นสายพันุ์ XBB.1.16 ซึ่งความสามารถของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวไม่แตกต่างจากเดิมอย่างมีนัยสำคัญในการแพร่ระบาด เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย ติดเชื้อง่าย แต่ความรุนแรงเท่าเดิม โดยอัตราการครองเตียงภาพรวมทั่วประเทศพบว่า ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ 22% ไม่ได้มากกว่าเดิม เพียงการติดเชื้อของผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้นใน รพ.เอกชนบางแห่ง แต่เตียงในสังกัด กทม. หรือโรงเรียนแพทย์ปกติ และพบผู้ป่วยหนัก 253 คน ทั้งนี้ เตรียมประสานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดของพื้นที่ กทม.-ปริมณฑล เนื่องจากพบว่ามีอัตราการติดเชื้อมากขึ้น จากทั้งการทำกิจกรรมปกติ เข้าสู่ฤดูฝน และเปิดเทอม คนติดเชื้อเป็นคนหนุ่มสาว มีอาการน้อย ทำให้แพร่โรคได้ง่าย ดังนั้น คนป่วยควรสวมหน้ากากอนามัย และหากสนทนากับผู้ป่วยสูงอายุ เพื่อป้องกัน


นพ.โอภาส กล่าวว่า ในรอบการระบาดครั้งนี้พบเห็นคนที่ไม่เคยติดเชื้อโควิดมาก่อน ทยอยติดเชื้อ ต่อไปคนที่เป็นโนวิด หรือไม่เคยป่วย จะค่อยๆ ลดลง ตอนนี้คนไทยมีภูมิคุ้มกันแล้วร้อยละ 97% โดยพบว่ามีคนติดเชื้อซ้ำมากสุดถึง 3 ครั้ง แต่ส่วนใหญ่อาการเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ขอย้ำให้ผู้สูงอายุทยอยมารับวัคซีนเข็มกระตุ้น เพราะหากเจ็บป่วยอาการจะรุนแรงกว่าคนทั่วไป และพบว่า ส่วนใหญ่ของผู้เสียชีวิต จะมีอาการปอดบวม และมักมีอาการรุนแรงจากโรคแทรกซ้อน เช่น ภาวะของผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง พบว่าหากติดเชื้อโควิด อาการจะรุนแรงมากขึ้น

นพ.ณัฐพงศ์ วงค์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า สถานการณ์การครองเตียงภาพรวมอยู่ที่ 21.92% การบริหารเตียงยังคงทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ จำนวนเตียงระดับ 3 และ 2.2 ยังมีเพียงพอ ส่วนอาการของผู้ป่วยที่พบในขณะนี้ มีอาการน้อย เกณฑ์การให้ยา จะเน้นในคนป่วยที่มีอาการ และมีโรคร่วมเป็นหลัก คนไม่มีอาการรุนแรง ไม่มีโรคประจำตัว รับยาตามอาการ คนที่มี อาการเล็กน้อย แต่มีโรคร่วม อาจให้ยาฟาวิพิราเวียร์ โมลนูพิราเวียร์ แต่คนที่มีโรคร่วม อาจให้ยาเรมเดซิเวียร์ หรือแพกโลวิดซ์ แต่ปัญหาเตียงที่พบใน รพ.เกิดจาก คนที่มีโรคร่วม เมื่อไปตรวจรักษาโรคอื่น แต่ก็พบติดเชื้อโควิด บางคนประสงค์นอนรักษาตัวใน รพ. ในจำนวนนี้มีอาการ ซึ่งบางคนไม่มีอาการรุนแรง สามารถรับยาแบบผู้ป่วยนอกได้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก

รวบ “พ.อ.หญิง-แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ตำรวจ ปปป. และ ป.ป.ช. จับ “พ.อ.หญิง” และ “ แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก พบเส้นเงินเชื่อมโยง 10 ล้านบาท

ซบพรรคกล้าธรรม

“เอกราช” จ่อซบ “กล้าธรรม” ยันไม่ถึงขั้นแตกหัก “อนุทิน-ภท.”

“เอกราช” เตรียมย้ายซบ “กล้าธรรม” เพื่อความสบายใจในการทำงาน ยันไม่ถึงขั้นแตกหักกับ “อนุทิน-ภูมิใจไทย” คาดเตรียมขับออกเร็วๆ นี้ เผยผูกพันกับ “ธรรมนัส ” กว่า 10 ปี

ไฟไหม้ท้ายรถบัสทัศนศึกษา นักเรียน-ครู ปลอดภัย

หวิดเกิดเหตุสลด รถบัสทัศนศึกษากำลังกลับโรงเรียน เกิดไฟไหม้ท้าย โชคดีอพยพทัน นักเรียนชั้น ป.6 ทั้ง 35 คน กับครู 7 คน ปลอดภัย

รวบไรเดอร์-วิน จยย.รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ไรเดอร์ร่วมกับวิน จยย. รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันจนน่วม ตำรวจตามจับได้ 3 คน ยังอ้างรุมทำร้ายโดยไม่รู้ที่มาที่ไป คิดว่าชายต่างชาติทำร้ายคนไทย ทนไม่ได้จึงเข้าช่วย

ข่าวแนะนำ

เปิดปฏิบัติการ “สยบนาคี” จุดจบแก๊งทุจริตยา

ตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ป.ป.ช. บุกรวบแพทย์หญิง และเครือข่ายทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก พบข้อมูล ไปจ้างคนที่มีสิทธิเบิกราชการ หัวละ 1,000 เข้ามารับยา ก่อนเอาไปปล่อยต่อเม็ดละ 20 บาท โกยเงินเข้ากระเป๋า 60 ล้าน ทำมาแล้ว 8 ปี

ศาล รธน.รับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” แทรกแซง กกต. คดีฮั้ว สว.

ศาลรัฐธรรมนูญสั่งรับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” ฝ่าฝืนจริยธรรม เหตุใช้อำนาจหน้าที่แทรกแซง กกต. กรณีดีเอสไอรับคดีฮั้ว สว. เป็นคดีพิเศษ แต่ไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ หากผิดหลุดตำแหน่ง ให้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน

ย้ายด่วน หัวหน้า อช.หมู่เกาะสิมิลัน เร่งสอบปมขายตั๋วไม่โปร่งใส

อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งย้ายด่วน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน หลัง ป.ป.ช. สุ่มตรวจสอบการจำหน่ายตั๋วที่เกาะสี่และเกาะแปด โดยไม่แจ้งล่วงหน้า พบการจำหน่ายตั๋วส่อไม่โปร่งใส

Trump says administration is looking into Signal, thinks Waltz should not apologize

“ทรัมป์” ชี้แชทรั่วไม่มีข่าวกรองชั้นความลับ

วอชิงตัน 26 มี.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ บอกปัดกรณีแชทรั่วไปถึงนักข่าวว่า ไม่มีข้อมูลข่าวกรองชั้นความลับ และไม่มีใครต้องขอโทษ ขณะที่ สว.เดโมแครตรุมตำหนิผู้ที่เกี่ยวข้องเรียกร้องให้ลาออก นายทรัมป์แสดงความหนุนหลังทีมงานด้านความมั่นคงของเขาด้วยการตอบคำถามสื่อในเรื่องนี้ที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า ไม่มีข้อมูลชั้นความลับถูกเปิดเผยในกลุ่มแชทสนทนาแอปพลิเคชัน ซิกนัล (Signal) ของกลุ่มเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ซึ่งนายไมเคิล วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงได้เชิญนักข่าวคนหนึ่งเข้าไปรวมอยู่ด้วยโดยไม่ตั้งใจ นายทรัมป์กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะพิจารณาเรื่องการใช้แอปพลิเคชันสนทนานี้และคิดว่านายวอลซ์ ไม่จำเป็นต้องขอโทษในเรื่องนี้ ขณะที่นายวอลซ์ให้สัมภาษณ์ในรายการของฟ็อกซ์นิวส์ ยืนยันขอเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่าอับอาย กลุ่มแชทที่เขาสร้างขึ้นมีรายละเอียดเรื่องแผนการโจมตีเยเมนจริง แต่ยืนกรานว่าไม่มีข้อมูลชั้นความลับ หลังจากนายเจฟฟรีย์ โกลด์เบิร์ก บรรณาธิการข่าวของนิตยสารดิแอตแลนติก (The Atlantic) ออกมาเปิดเผยว่า ถูกรวมอยู่ในกลุ่มแชทเข้ารหัสโดยไม่รู้ตัวเมื่อวันที่ 13 มีนาคม และได้เห็นโพสต์ของนายปีเตอร์ เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมเรื่องแผนการทำสงครามก่อนสหรัฐเปิดฉากโจมตีเยเมนระลอกแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ด้านสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พรรคเดโมแครตพากันตำหนินางทัลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติและนายจอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางหรือซีไอเอ (CIA) ที่ไปให้ปากคำต่อคณะกรรมการข่าวกรองในวุฒิสภาว่า ฉาบฉวย ไร้ความสามารถ และไม่ให้เกียรติคนทำงานข่าวกรอง นางแกบบาร์ดและนายแรตคลิฟฟ์อยู่ในกลุ่มสนทนาในแอปฯ ซิกนัลที่มีข่าวรั่วในครั้งนี้ […]